สถานการณ์ หรือความคิดที่ทำให้คนดีๆ คนหนึ่ง ต้องกลายมาเป็นมือที่สามแบบไม่ได้ตั้งใจ

อ่าน 6,467

สิ่งที่ทำให้คนเราเป็น "มือที่สาม" โดยไม่ได้ตั้งใจ

คงไม่มีใครเถียงว่า การยุ่งกับแฟนหรือสามีภรรย าคนอื่นเป็นสิ่งที่ผิดศีลธรรมและไม่ใช่สิ่งที่สังคมยอมรับ ทว่าเท่าที่ได้พูดคุยกับคนที่เป็นมือที่สาม เราพบว่า ไม่ใช่ทุกคนที่มีจิตใจชั่วร้ ายคิดแย่งของของใครมาตั้งแต่ต้น แต่หลายคนเป็นคนนิสัยใจคอดีๆ คนหนึ่งเลย เพียงแต่สถานการณ์ต่างๆ นั้นพาไป

ในครั้งนี้ เราเลยจะมาเล่าถึงเส้นทางสถานการณ์ หรือความคิดที่ทำให้คนดีๆ คนหนึ่ง หรือคนที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะไปยุ่งกับแฟนใคร ต้องกลายมาเป็นมือที่สามแบบไม่ได้ตั้งใจ เผื่อว่าใครกำลังสุ่มเสี่ยงตกอยู่ในสถานการณ์นี้จะได้ตั้งสติถอนตัวออกมาทัน

ความเหงาชักพา

คนที่มีแฟนหรือมีสามีภรรย าอยู่แล้ว มักก้าวสู่ความสัมพันธ์ลับๆ เพราะก่อนหน้ามีปัญหากับคู่รักตัวเอง เช่น หมดรักแฟน รู้สึกเบื่อหน่ายท้อใจกับแฟน หรือรู้สึกว่าความคิดตัวเองกับแฟนไม่ตรงกันสักเรื่อง เป็นต้น

ซึ่งปัญหาเหล่านี้ก่อให้เกิดความเหินห่าง ความเหงาเปล่าเปลี่ยวในใจ จนกระทั่งโชคชะตานำพาให้พวกเขาเจอหญิงชายคนอื่นที่บังเอิญเข้ากันได้ดี คุยแล้วสนุก รู้สึกตัวเองมีคุณค่า รู้สึกว่าอีกฝ่ายเข้าใจตัวเองได้ดีกว่าแฟนหรือสามีภรรย า

เริ่มต้นจากว่าสองฝ่ายต่างไม่คิดอะไร

เหตุผลหนึ่งที่ฝั่งคนเป็นมือที่สามยอมพูดคุยกับคนที่มีคนรักแล้ว เป็นเพราะทุกอย่างมันเริ่มต้นด้วยการไม่คิดอะไรมาก่อน ยกตัวอย่างเช่น คนที่เรารู้จักคนหนึ่ง เขาแต่งงานและมีปัญหากับภรรย ามาตลอด จนวันหนึ่งเขาบังเอิญเจอเพื่อนผู้หญิงสมัยเรียนที่ไม่ได้เจอกันนานหลายสิบปี

พอเจอกันก็เลยถามสารทุกข์สุกดิบโดยไม่ได้คิดว่าจะไปจีบอะไร เพราะตัวเองก็มีภรรย าอยู่แล้ว แต่กลายเป็นว่าพอคุยกันเกิดรู้สึกถูกคอ ต่อมาก็คุยกันบ่อยขึ้นเรื่อยๆ

เส้นแบ่งอันพร่าเลือน

หลังจากคนเหงาสองคนคุยกันสักพัก สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือ ความพร่าเลือนของความสัมพันธ์พวกเขา ใจหนึ่งพวกเขายอมรับว่า ตัวเองรู้สึกดีกับการได้คุยกับอีกฝ่าย แต่อีกด้านหนึ่งพวกเขามักเข้าใจว่า นี่ยังเป็นความสัมพันธ์แบบฉันเพื่อน Platonic Love เพราะมันยังไม่มีอะไรเกินเลย พวกเขาแค่คุยกันบ่อยเท่านั้นเอง และมักหยิบเหตุผลที่ทำให้ตัวเองสบายใจขึ้นมาด้วยการพูดว่า ทำไมผู้หญิงผู้ชายจะเป็นเพื่อนสนิทกันไม่ได้

แต่เอาเข้าจริง หากพิจารณาในรายละเอียดก็จะรู้ว่า มันสนิทกันเกินเพื่อน พวกเขาไลน์หากันทุกวัน คุยกันวันละนานๆ แถมยังออกไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาคือ พวกเขาสนิทและผูกพันกันมากจนไม่อย ากให้ความสัมพันธ์นี้จบลง

มักคิดว่าควบคุมตัวเองอยู่

อย่างที่เกริ่นไปก่อนหน้านี้ว่าหลายคนที่เป็นมือที่สามโดยไม่ได้ตั้งใจ มักไม่คาดคิดมาก่อนว่าวันหนึ่งตัวเองจะไปแย่งแฟนคนอื่น แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาถลำลึกจนตกอยู่ในสถานะนี้เป็นเพราะพวกเขาประมาทความคิดตัวเองจนเกินไป

พวกเขาเริ่มต้นจากการเชื่อว่า พวกเขาสามารถควบคุมตัวเองได้ โดยไม่ทำให้ความสัมพันธ์ไปไกลจนถึงขั้นผิดศีลธรรม แต่ปัญหาคือ พวกเขามักลืมไปว่า คนเราไม่ได้ใช้เหตุผลในการดำเนินชีวิตร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่แทบเป็นเรื่องอารมณ์ที่เข้ามาควบคุมการกระทำ

ไม่งั้นเราคงไม่เห็น ผีพนัน คนบ้าซื้อของ หรือคนที่หลงผิดทำอะไรแย่ๆ ทั้งที่รู้ว่ามันไม่ดี ปัญหาไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่รู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควร แต่พวกเขาเอาชนะอารมณ์ตัวเองไม่ได้

ในทำนองเดียวกัน หลายคนที่ถลำลึกกลายเป็นมือที่สาม ก็เกิดจากแพ้ความคิดฝั่งอารมณ์ตัวเอง เพราะสนิทสนมผูกพันกันมากๆ มันก็เกิดอารมณ์ลึกซึ้ง จนในที่สุดก็เผลอทำในสิ่งที่ตัวเองไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะทำ

ยกเหตุผลมาทำให้ตัวเองสบายใจ

ไม่มีใครอย ากยอมรับว่าตัวเองเป็นคนไม่ดี สิ่งที่คนเหล่านี้มักทำต่อมาก็คือ การหาเหตุผลดีๆ มาทำให้ตัวเองสบายใจหรือรู้สึกผิดน้อยลง เช่น บอกตัวเองว่า สิ่งที่ทำไปก็เพราะอย ากเป็นที่พักใจให้อีกฝ่ายที่เจ็บปวดจากสามีภรรย ามา หรือการพร่ำบอกตัวเองว่า เราไม่เคยคิดจะไปพลัดพรากสามีภรรย าหรือลูกของเขา เราไม่ได้อย ากได้เขามาเป็นของเรา เราแค่อย ากมีเขาบางเวลาในจุดที่เป็นอยู่เท่านั้นพอ

ซึ่งก็ต้องยอมรับว่านี่คือการหลอกตัวเองนั่นเอง โดยเหตุผลต่างๆ ที่ยกมานั้นไม่ใช่เหตุผลเพราะมันคือเหตุผลหรอก แต่เป็นข้ออ้างที่ทำให้พวกเขายังอยู่ในความสัมพันธ์นั้นต่อไปได้โดยไม่ทรมานใจมากนัก แต่หารู้ไม่ว่านั่นคือการขุดหลุมฝังตัวเองลึกลงไปเรื่อยๆ จนย ากเกินกว่าจะปีนออกมา พอรู้ตัวอีกทีก็กลายเป็น มือที่สาม แบบเต็มใจโดยสมบูรณ์

จากที่เล่ามาทั้งหมด เจตนาของเราไม่ได้คิดจะมาตำหนิหรือตอกย้ำซ้ำเติมคนที่เป็นมือที่สาม เพราะเข้าใจว่าที่เป็นอยู่ ความรู้สึกผิดก็กัดกินจิตใจอยู่แล้ว เพียงแต่อย ากชวนให้ตระหนักและรู้เท่าทันตัวเองก่อนที่อะไรมันจะสายหรือลุกลามเป็นปัญหาใหญ่โต

สำหรับการจะออกมาจากปัญหานี้ได้

อย่างแรก คือ ต้องยอมรับความจริงอย่างตรงไปตรงมาก่อน ว่าเรื่องนี้มันไม่ถูกและเหตุผลดีๆ ที่บอกตัวเองมันคือคำโกหก

อย่างที่สอง คือ มองให้เห็นว่า สิ่งที่ทำเป็น ความสุขปลอม เพราะถ้าสุขจริง จะไม่รู้สึกตะขิดตะขวงกวนใจอย่างนั้นหรอก

อย่างที่สาม คือ บังคับใจตัวเองสร้างพฤติกรร มใหม่ที่ตัดขาดจากคนนั้นอย่างเด็ดขาด เพราะการปล่อยให้ตัวเองยังไปเจอหรือคุยกับคนนั้น คือการสร้างความคุ้นเคยในการมีเขาในชีวิต

และอย่างสุดท้าย คือ ต้องมีความหวังและภาคภูมิใจในตัวเอง เพราะเหตุผลที่หลายคนยอมลดคุณค่าตัวเองไปทำอะไรที่ไม่ดี เป็นเพราะยังนับถือตัวเองไม่พอ

ฉะนั้น ต้องเรียกความภูมิใจในตัวเองกลับคืนมา และมีหวังอยู่เสมอ ว่าเราคู่ควรกับสิ่งที่ดีและสุขอย่างแท้จริง

ที่สำคัญ เรากำลังช่วยให้ตัวเองหลุดจากการทำร้ ายตัวเองและทำร้ ายคนอื่น คนเราทำผิดกันได้ แต่เมื่อรู้ตัวว่าผิด ก็ควรทำให้ถูก จริงไหม?


ความรัก

เครื่องสำอาง แม่และเด็ก คลินิก สุขภาพ สกินแคร์ แต่งหน้า ทรงผม ทำเล็บ แฟชั่น ความรัก ดูดวง วาไรตี้ ลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย คติสอนใจ ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร ร้านคาเฟ่