ข้อควรรู้เกี่ยวกับ "ยาคุมฉุกเฉิน" ผลข้างเคียง! วิธีกิน!

อ่าน 4,436

ยาคุมฉุกเฉิน เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่คุณสาวๆควรจะมีความรู้เกี่ยวกับมันไว้ เพราะไม่รู้ว่าในวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น หรือบางครั้งเราอาจจำเป็นต้องใช้มันก็ได้ และไม่ใช่ว่าผู้หญิงที่มีความรู้หรือผู้หญิงที่พกยาคุมเป็นผู้หญิงไม่ดีเสียหน่อย ตรรกะแบบนี้ควรหายไปเสียที

คราวนี้เราไปรู้จักยาคุมฉุกเฉินให้ดีกันดีกว่า ยาคุมฉุกเฉิน หรือ ยาคุมกําเนิดฉุกเฉิน หรือ ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน คือยาคุมที่เหมือนกับยาคุมกำเนิดธรรมดาทั่วไป  เพียงแต่จะมีปริมาณฮอร์โมนต่อเม็ดสูงกว่า และมีไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น และต้องกินหลังจากมีเพศสัมพันธ์ภายในเวลาที่กำหนด ไม่ควรใช้เพื่อการคุมกำเนิดในระยะยาว

วิธีการกินยาคุมฉุกเฉิน

- ต้ององกินยาคุมฉุกเฉินเม็ดแรก "ให้เร็วที่สุดหลังจากมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน" โดยไม่ควรนานเกินกว่า 120 ชั่วโมง (5 วัน) หลังจากการมีเพศสัมพันธ์ (แต่ถ้าจะให้ได้ผลดีไม่ควรเกิน 72 ชั่วโมง หรือ 3 วัน และจะให้ผลดีที่สุดคือไม่เกิน 12 ชั่วโมง) และต้องกินยาคุมฉุกเฉิน (เม็ดที่ 2) ซ้ำอีก 1 เม็ด หลังจากกินยาเม็ดแรกไปแล้ว 12 ชั่วโมง เช่น มีเพศสัมพันธ์เสร็จและเริ่มกินยาเม็ดแรกเวลา 0.00 น. เมื่อครบ 12 ชั่วโมงให้กินซ้ำอีก 1 เม็ด คือ เวลา 12.00 น.

- เพื่อความสะดวก สามารถกินยาคุมฉุกเฉินได้พร้อมกัน 2 เม็ดในครั้งเดียว ซึ่งเป็นขนาดที่องค์การอนามัยโลกแนะนำให้กิน โดยที่ประสิทธิภาพและความปลอดภัยจะไม่แตกต่างจากการแบ่งกินเป็น 2 ครั้ง ซึ่งในต่างประเทศจะนิยมรูปแบบการกินในครั้งเดียวมากกว่า โดยตัวยาที่จำหน่ายจะมีความแรงจากเดิมเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า คือจะมีตัวยาลีโวนอร์เจสเตรล (Levonorgestrel) ขนาด 1.5 มิลลิกรัม เพียง 1 เม็ด จึงทำให้เกิดความสะดวกในการกินมากกว่าแบบ 2 เม็ด แต่วิธีนี้จะไม่ค่อยเหมาะกับมือใหม่ครับ เพราะในบางรายยังพบว่าจะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน (จากการกินยาเพียงครั้งเดียวพร้อมกัน 2 เม็ด) ได้มากกว่าการแบ่งกิน 2 ครั้ง

- ในกรณีที่กินยาในแต่ละเม็ด แล้วเกิดอาเจียนหรืออ้วกออกมาภายใน 2 ชั่วโมง จะต้องกินยาใหม่ (กินซ้ำอีก 1 เม็ดในทันที) สำหรับมือใหม่ที่ไม่เคยกินหรือกลัวกินแล้วอาเจียนจะซื้อมาเผื่ออีก 1 กล่องก็ได้ครับ

- หลังกินยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน อาจทำให้มีอาการคลื่นไส้อาเจียนได้ การกินยาแก้อาเจียนก่อนยาคุมฉุกเฉินจะช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียนได้ดี

- ไม่แนะนำให้กินยาคุมฉุกเฉินเกิน 2 กล่อง หรือ 4 เม็ดต่อเดือน เพราะอาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงกับรังไข่ในระยะยาวได้

- สามารถกินยาคุมฉุกเฉินได้ แม้จะกินยาคุมกำเนิดชนิดปกติอยู่แล้วก็ตาม "แต่จะกินได้เฉพาะในกรณีที่ลืมกินยาเกิน 3 วัน ร่วมกับการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน" ในกรณีนี้เราสามารถกินยาคุมฉุกเฉินแทรกเข้าไปได้โดยไม่แทรกแซงการทำงานของยาคุมชนิดปกติ

- สำหรับการเก็บรักษายาคุมฉุกเฉิน ควรเก็บในที่อุณหภูมิห้องปกติหรือไม่เกิน 30 องศาเซลเซียส

ว่าด้วยเรื่องกินยาคุมฉุกเฉินแล้วประจำเดือนจะมาเมื่อไหร่

ยาคุมฉุกเฉินไม่ใช่ยาขับประจำเดือนหรือทำให้ประจำเดือนมา แต่ผลข้างเคียงจากยาอาจทำให้มีเลือดออกผิดปกติจากช่องคลอดในช่วงเวลา 1 สัปดาห์หลังกินยาได้ ซึ่งพบได้ประมาณ 16%  ส่วนประจำเดือนจริงๆ ของรอบเดือนนั้น มักจะมาในช่วงเวลาเดิม ซึ่งในบางรายอาจมาช้าหรือเร็วกว่าปกติก็ได้

ผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉิน

1. ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยๆ จากยาคุมฉุกเฉินจะเป็นอาการที่ไม่รุนแรงมากนัก ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ เจ็บคัดเต้านม ปวดท้อง มีเลือดออกกะปริดกะปรอย (ออกมาเล็กน้อยประมาณ 1-2 วัน หรือ 3-4 วัน) ประจำเดือนมาช้าหรือเร็วกว่าปกติ ซึ่งอาการเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องใช้ยารักษา และจะหายไปได้เองภายใน 24 ชั่วโมง (ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย ไม่ได้หมายความว่าจะมีอาการข้างเคียงเหล่านี้เกิดขึ้นได้เกือบทุกคนที่ใช้นะครับ แต่มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่กินแล้วมีอาการข้างเคียงดังกล่าว หากกินไปแล้วไม่มีอาการดังกล่าวก็ไม่ต้องแปลกใจ)

2. การกินยาคุมฉุกเฉินในช่วงระยะเวลาสั้นๆ จะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายแต่อย่างใด แต่การใช้ยานี้ติดต่อกันนานๆ นอกจากจะมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดที่ด้อยกว่ายาเม็ดคุมกำเนิดแบบปกติแล้ว ยังอาจทำให้เกิดความผิดปกติที่รังไข่ เยื่อบุโพรงมดลูก รวมทั้งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูกได้ถึง 2% ดังนั้นจึงไม่ควรใช้ยานี้เกิน 2 กล่องต่อเดือน


สุขภาพ

เครื่องสำอาง แม่และเด็ก คลินิก สุขภาพ สกินแคร์ แต่งหน้า ทรงผม ทำเล็บ แฟชั่น ความรัก ดูดวง วาไรตี้ ลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย คติสอนใจ ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร ร้านคาเฟ่