เลือกผิดต้องเลือกใหม่!! หูฟังแบบไหน อันตรายกว่ากัน?!

อ่าน 7,395

กิจกรรมยามว่างของใครหลายคนคือการดูหนังฟังเพลง โดยเฉพาะระหว่างการเดินทางบนถนนที่มีการจราจรคับคั่ง หากไม่มีเสียงหนังหรือเสียงเพลงเข้าหูเลยก็คงรู้สึกเครียดน่าดู ซึ่งปกติแล้วเราก็มักจะใช้หูฟังที่แถมมาให้พร้อมโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์อยู่แล้ว แต่ถ้าวันหนึ่งมันเกิดเสีย และเราต้องไปซื้อใหม่ล่ะ เชื่อว่าหลายคนน่าจะมีความสงสัยอยู่ไม่มากก็น้อยล่ะว่าหูฟังแบบ In-Ear กับ Earbuds มันแตกต่างกันยังไง มาไขคำตอบไปพร้อม Gangbeauty เลยดีกว่า!

          เริ่มแรกเราควรมาทำความรู้จักหูฟังทั้งสองแบบกันก่อน หูฟังที่เราคุ้นเคยกันมาเป็นเวลานานมาก นิยมใช้กันมาตั้งแต่ยุคแรกๆ มีชื่อเรียกจริงๆ ว่า Earbuds เป็นหูฟังที่มองจากด้านข้างแล้วจะเห็นเป็นรูปครึ่งวงกลม คือมีด้านโค้งตรงข้ามกับด้านแบน ซึ่งเป็นหูฟังที่มีขายตามท้องตลาดทั่วไป และเป็นหูฟังที่ทางแบรนด์ผู้ผลิตต่างๆ นิยมแจกมาให้พร้อมกับอุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์ที่จำเป็น เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเลต เป็นต้น ในขณะที่อีกแบบมีชื่อเรียกว่า In-ear เป็นหูฟังที่พัฒนาจากแบบเอียร์บัดส์ โดยจะมีจุกยางนิ่มๆ ยื่นเข้าไปในช่องหู และดูเหมือนจะได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ

Earbuds (เอียร์บัดส์)

www.flickr.com

In-ear (อิน-เอียร์)

pixabay.com

          แน่นอนว่า In-ear ที่เป็นหูฟังนวัตกรรมใหม่กว่า Earbuds จะต้องมีข้อดีในเรื่องของเสียงมากกว่าอยู่แล้ว เช่น มีรายละเอียดเสียงที่ดีกว่า มีความเพี้ยนต่ำ ให้มิติเสียงที่ดี แถมยังสามารถตัดเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดีมาก จึงทำให้เราสามารถฟังเพลงหรือดูหนังได้อย่างจุใจ เรียกง่ายๆ ว่าไม่มีอะไรมารบกวนระหว่างเรากับความบันเทิงตรงหน้าได้แน่นอน

commons.wikimedia.org

          แต่ด้วยความสามารถในการตัดเสียงของ In-ear ที่ดีเกินไป อาจจะทำให้ไม่ค่อยเหมาะสักเท่าไหร่ถ้าจะนำไปใช้นอกบ้าน เพราะจะทำให้เราไม่ได้ยินเสียงรถเวลาเดินริมถนน ไม่ได้ยินเสียงประกาศต่างๆ ในที่สาธารณะ หรืออาจจะเป็นช่องว่างให้อาชญากรก่อเหตุกับเราได้โดยไร้หนทางป้องกันตัว ซึ่งถ้าพูดกันตรงๆ แบบ Earbuds ซึ่งเก่ากว่า คงเป็นนวัตกรรมที่ดีกว่าในการใช้ชีวิตในสังคมที่ไม่จำเป็นต้องดื่มด่ำกับเสียงมากขนาดนั้น

en-uk.sennheiser.com

          ทว่าถ้าพูดถึงความอันตราย ทั้งสองแบบถือว่ามีความอันตรายพอกัน กล่าวคือหากเราเปิดเสียงเพลงดังมาก อย่างไรแก้วหูก็มีผลกระทบ โดยปกติแล้วความดังที่ไม่อันตรายจะไม่เกิน 85 เดซิเบล หรือประมาณ 60-70% ของเสียงดังสุดในสมาร์ทโฟน จุดนี้เราจึงควรควบคุมไม่ให้ระดับของเสียงโอเว่อร์หรือดังมากเกินไปจนคนรอบข้างได้ยินไปด้วย แต่อีกจุดหนึ่งที่ต้องระวังคือแบบ In-ear นั้นอาจสร้างความดันในช่องหูจนทำให้เสียงดังมากกว่าเดิม และอาจก่อให้เกิดความชื้นจนติดเชื้อในช่องหูเนื่องจากอากาศถ่ายเทไม่สะดวกด้วย

ชั่งใจดูดีๆ ว่าเราเหมาะสมกับหูฟังแบบไหน จะได้ปลอดภัยไร้ปัญหานะจ๊ะ!


วาไรตี้

เครื่องสำอาง แม่และเด็ก คลินิก สุขภาพ สกินแคร์ แต่งหน้า ทรงผม ทำเล็บ แฟชั่น ความรัก ดูดวง วาไรตี้ ลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย คติสอนใจ ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร ร้านคาเฟ่