บริษัทส่งเขาไปตรวจงานต่างจังหวัดเป็นเวลาครึ่งเดือน

เป็นจังหวัดที่ทุรกันดารพอสมควร

โดยปกติไม่ค่อยมีใครอยากจะไปนัก

แต่ครั้งนี้ เขากลับยินดีและรับปากทันที

เที่ยงวันนั้น เขารีบตรงเข้าบ้าน จากนั้นก็จัดแจงเก็บเสื้อผ้าจัดกระเป๋า

ซึ่งโดยปกติภรรยาของเขามักจะเป็นผู้ทำให้เสมอ

แต่ครั้งนี้ เขาต้องทำเอง เพราะความเร่งรีบ

จากนั้นก็โทรบอกภรรยาว่าบริษัทส่งเขาไปดูงานต่างจังหวัด อีกครึ่งเดือนถึงจะกลับมา

“ตัวแลตัวเองนะคุณ ถ้าฉันว่างจะแวะไปเยี่ยมคุณ” ภรรยาเขาเอ่ยก่อนที่จะวางสาย

“ไม่เป็นไร คุยทางไลน์ก็ได้ หรือไม่เดี๋ยวผมค่อยหาเวลากลับมาเยี่ยมคุณเอง” เขาบอกภรรยา

ที่จริงที่เขารีบ ไม่ใช่เพราะงานที่ต้องไปรับผิดชอบ

เขารีบไปหาเด็กสาวที่เพิ่งส่งเสียเลี้ยงดูต่างหาก

?

เขาเปิดตู้เสื้อผ้า จากนั้นก็หยิบเสื้อพับใส่กระเป๋า

เสื้อผ้าของเขาถูกจัดแขวนไว้ด้านหน้าสุด มองเห็นง่ายสุด ไล่เรียงตามสีแลดูสะอาดเรียบร้อย

“หอมจังเลย”

เขาหยิบเสื้อออกจากตู้อีกครั้งแล้วก็นำมาดม วันนี้เขารู้สึกครึ้มอกครึ้มใจเป็นพิเศษ

เขาเปิดตู้อีกหลังหนึ่งที่แขวนชุดสูทพร้อมเนทไทเข้ากับชุด

เสื้อผ้าของเขาแทบจะทุกชิ้นภรรยาเป็นผู้จัดหาซื้อให้

และเมื่อเขาสวมใส่มันก็ช่วยเสริมให้เขาดูดีทุกชุด

แม้วัยจะเลยสี่สิบกว่าปี เขาก็ยังดูหนุ่มและดูดีกว่าคนวัยเดียวกันหลายปีนัก

เวลามีใครเอ่ยชมภรรยาว่าช่างเลือกสรรเสื้อผ้าให้เขา

เขามักจะไม่ค่อยเห็นด้วย จึงมักจะบอกว่า ?

“คนหน้าตาดีใส่อะไรก็ดูดี”

?

ภรรยาของเขาเป็นคนดี เธอมีคุณสมบัติครบถ้วนของศรีภรรยา

เรื่องการดูแลเอาใจใส่เขานั้น เธอไม่มีขาดตกบกพร่อง

ก่อนหน้านั้นเขาเคยรู้สึกซาบซึ้งและภูมิใจในตัวเธอ และเคยสัญญากับเธอว่าจะไม่มีหญิงอื่นไปตลอดชีวิต

แต่ความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายและสุขสบายอย่างนี้ มันไม่ต่างอะไรกับการนอนแช่ในบ่อน้ำอุ่นเป็นเวลานาน มันชินไปเสียแล้ว

เขาอยากอาบน้ำนอกบ้านบ้าง อยากไปอาบน้ำฝนบ้าง เขาคิดเพียงแต่ว่า สิ่งที่ภรรยาปฏิบัติต่อเขามันคือสิ่งที่เธอสมควรทำ

?

เขาและเธอแต่งงานกันมา 10 ปีแล้ว ทุกครั้งที่ไปงานเลี้ยงบริษัท

เพื่อนคนอื่นๆ ก็มักจะพาเด็กสาวมาด้วยทุกครั้ง

จนมาครั้งนั้น ที่เขาได้เจอกับเด็กสาวคนนี้ เธอสนใจในตัวเขาเป็นพิเศษ

วันเกิดที่ผ่านมาของเขา เด็กสาวซื้อของขวัญมามอบให้เขาถึงบริษัท

การได้อยู่ใกล้เธอทำให้เขารู้สึกกลับไปเป็นหนุ่มน้อยอีกครั้ง มันเป็นความรู้สึกที่ช่างวิเศษ

ช่วงที่ผ่านมา เขาต่อสู้กับความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของตัวเอง

ถึงขั้นคิดจะเลิกกับภรรยาเพื่อมาอยู่กับเด็กสาวคนนี้

แต่ภรรยาของเขาก็ไม่ได้มีความผิดข้อไหนที่จะหาทางหย่าจากเธอได้

นี่เป็นความรู้สึกกระอักกระอ่วนในใจ ยิ่งมาเขายิ่งไม่เห็นความพิเศษของภรรยาเลย

เย็นนั้นที่คอนโด

เขาทำอาหารให้เด็กสาวกิน ซึ่งเขาไม่ได้ทำอย่างนี้มานานมาก เขาและเธอหัวเราะกันสนุกสนาน

ก่อนนอน เขาบอกเธอว่า “เขาต้องดื่มนมก่อนถึงจะนอนหลับสบาย”

เด็กสาวเดินไปเปิดตู้เย็นรินนมเปรี้ยวยื่นให้เขาหนึ่งแก้ว

เธอไม่รู้ว่าเขากลัวน้ำเย็น พอดื่มนมเปรี้ยวเย็นๆเข้าไปท้องใส้ก็ปั่นป่วน

ตอนที่เขาอยู่บ้าน ก่อนนอนทุกคืนบนโต๊ะข้างเตียงนอนจะมีนมอุ่นๆวางไว้เพื่อเขาหนึ่งแก้ว

แน่นอน นมอุ่นไม่ได้เดินมาอยู่ที่โต๊ะด้วยตัวมันเอง ก็ภรรยาของเขานั่นแหละที่เตรียมไว้ให้เขา

“เราเพิ่งอยู่ด้วยกัน เดี๋ยวเธอก็รู้ว่าอาแพ้อะไรบ้าง?” เขากล่าวกับเด็กสาวอย่างเชื่อมั่น

?

วันรุ่งขึ้น ก่อนที่เขาจะเดินทางไปดูงานที่ต่างจังหวัด

เขายื่นเสื้อเชิ๊ตที่ใส่เมื่อวานให้กับเด็กสาว

“ซักรีดให้อาด้วยนะ ก่อนกลับอาจะมาค้างกับเธออีกคืน”

เด็กสาวรับเอาเสื้อเชิ้ตของเขามากอดไว้พร้อมยิ้มส่ง

มันยิ่งทำให้หัวใจเขาชุ่มชื่น การกระทำเล็กๆน้อยๆของเด็กสาวทำให้หัวใจของเขาพองโต

“ชีวิตอย่างนี้สิถึงมีสีสัน” เขาบอกกับตัวเองก่อนก้าวออกจากคอนโด

?

ตามคำสัญญากับเด็กสาว เขากลับมาก่อนเวลาหนึ่งวันเพื่อจะได้มาค้างกับเธอ

เมื่อมาถึงคอนโด เขาบอกเธอว่าเขาขออาบน้ำก่อน

จากนั้นก็เรียกเด็กสาวให้หยิบเสื้อเชิ๊ตที่ฝากให้เธอซักเมื่อกลางเดือนที่แล้ว

เมื่อเขาอาบน้ำเสร็จ เด็กสาวก็ยังง่วนอยู่กับการหาเสื้อของเขา

หายังไงเธอก็หาไม่เจอ จนเขาต้องช่วยหาด้วยอีกคน

เขาเปิดดูตู้เสื้อผ้าของเธอหลายครั้ง ก็หาไม่เจอ จนรู้สึกหงุดหงิด

เด็กสาวค้นหาในตะกร้าเสื้อผ้า จู่เธอก็หัวเราะขึ้นมา

“เจอแล้วค่ะ อยู่นี่เอง”

เธอหยิบเสื้อของเขาขึ้นมาทั้งๆที่ยังมีไม้แขวนเสื้อติดอยู่

“หนูซักแล้วว่าจะรีด พอดีลืมไว้ในตะกร้า มันก็เลยเป็นอย่างนี้”

เขามองเสื้อที่ยับยู่ยี่อย่างสลดใจ ความรู้สึกครึกครื้นมันหายไปตั้งแต่ตอนหาเสื้อแล้ว

นี่ยังมาเจอเสื้อของตัวเองในสภาพนี้อีก เขาได้แต่ส่ายหัวไปมา

เด็กสาวรู้ว่าเขาโกรธจึงตรงเข้ามากอดเขาไว้

“หนูจะไม่ทำอย่างนี้อีก อาให้อภัยหนูได้ไหมค่ะ?”

?

เขานึกถึงเสื้อผ้าทุกตัวที่ภรรยาซักและรีดใส่ตู้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

แต่นี่ที่คอนโดของเด็กสาว เสื้อของเขากลับถูกยัดลงตะกร้า

คิดถึงตรงนี้ใบหน้าของเขาร้อนผ่าว อยู่ที่บ้านเขาไม่เคยเจอกับเหตุการณ์อย่างนี้มาก่อน

เขาไม่เคยรู้สึกอดสูใจอย่างนี้ ยิ่งนึกก็ยิ่งหดหู่ในจิตใจ

เขาสวมเสื้อผ้าที่นำติดตัวมาและเก็บเสื้อเชิ้ตลงในกระเป๋า

จากนั้นก็เดินตรงไปที่ประตู เดินจากเด็กสาวไปด้วยความสับสน

?

เมื่อถึงบ้าน คนที่ออกมาเปิดประตุก็คือภรรยาของเขา

เธอมองตลึงแล้วก็หัวเราะขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ

“ทำไมกลับมาก่อนตั้งหนึ่งวันละคะ ตั้งใจมาเซอร์ไพรส์เหรอคะ คิดถึงฉันใช่ไหมล่ะ?”

ยิ่งเห็นภรรยายิ้มแย้มพูดหยอก เขาก็ยิ่งรู้สึกละอายใจ

“มา เดี๋ยวฉันเปิดน้ำอุ่นให้อาบนะ มีเสื้อผ้าที่ไม่ได้ซักไหม เดี๋ยวฉันเอาไปลงเครื่องด้วยเลย”

เธอรับเอาเสื้อเชิ้ตตัวยับนั้นจากมือของเขา

เขามองตามภรรยาไป จู่ๆก็เหมือนมีก้อนอะไรสักอย่างมาจุกอยู่ที่ลำคอ

“นี่สินะที่เขาพูดว่ากันว่าครอบครัว บรรยากาศมันเป็นอย่างนี้นี่เอง ความธรรมดาที่เราไม่เคยใส่ใจ”

เขาพึมพำและมองภรรยาอย่างรักใคร่

เขาเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า เสื้อผ้าของเขาทุกชุดถูกแขวนไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยเหมือนเดิม

เขาสูดลมหายใจดังแบบรู้สึกสุขใจอย่างประหลาด

พอภรรยาของเขาเดินออกมาจากห้องน้ำ

เขาก็สวมกอดเธอไว้แน่นและนาน

เหมือนกับเด็กที่ทำของรักหายไปและได้กลับคืนมาก็มิปาน

อย่าให้ความสนุกน่าตื่นเต้นเพียงชั่วครั้ง พังครอบครัวที่ร่วมสร้างกันมา

ระลึกไว้เถิดหนา?

ยามที่ฉันถนอมคุณ ขอให้คุณถนอมฉันตอบ

เพราะฉันรักคุณได้ ฉันก็เกลียดคุณได้เช่นกัน

เสื้อผ้าขาดเป็นรู พอซ่อมแซมปะเย็บได้ ไม่เป็นไร!

บาดแผลพกช้ำทางกาย ทายารักษาหายได้ ไม่เป็นไร!

บาดแผลทางใจ เอายาที่ไหนรักษา? มันจะสายไป!

อย่ารอให้ฉันร้องไห้ก่อน คุณถึงมาบอกรักฉัน

อย่ารอให้ฉันท้อก่อน คุณถึงมารอง้องอล

อย่ารอให้ฉันเดินจากไปก่อน คุณถึงมาบอกรักฉันเพียงใด

หากวันใดที่ฉันตัดสินใจ มันจะไม่มีทางหวนกลับคืนมาเหมือนเดิมได้อีกต่อไป

???????????????????

#นุสนธิ์บุคส์

Share.