เคยสงสัยไหม ? ที่มาและความหมายของการตั้งชื่อเดือนเป็นภาษาไทย ให้ตามหลักปฏิทินสากล !!
กำหนดชื่อเดือนขึ้นมาใหม่ จากเดิมที่ใช้เดือนอ้าย เดือนยี่ ถึงเดือนสิบสอง เป็นชื่อเดือนแบบที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน (ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 6 ทรงใช้คำว่า "ปฏิทิน" แทนประติทิน) โดยกำหนดแบ่งให้หนึ่งปีมี 12 เดือน และในแต่ละเดือนจะมี 28-31 วันตามปฏิทินสากล การตั้งชื่อเดือนในครั้งนั้นกำหนดเดือนแรกของปีคือ เดือนเมษายน จนถึงเดือนสุดท้ายของปีคือเดือนมีนาคม ซึ่งยังคงใช้รัตนโกสินทรศกเป็นชื่อปีอย่างเป็นทางการ โดยใช้ 1 เมษายน ร.ศ.108 แทนที่ 1 เมษายน พ.ศ.2432 จนกระทั่งเลิกใช้ปีรัตนโกสินทรศกที่ 131 จึงได้เปลี่ยนมาใช้ปีพุทธ
กำหนดชื่อเดือนขึ้นมาใหม่ จากเดิมที่ใช้เดือนอ้าย เดือนยี่ ถึงเดือนสิบสอง เป็นชื่อเดือนแบบที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน (ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 6 ทรงใช้คำว่า "ปฏิทิน" แทนประติทิน) โดยกำหนดแบ่งให้หนึ่งปีมี 12 เดือน และในแต่ละเดือนจะมี 28-31 วันตามปฏิทินสากล การตั้งชื่อเดือนในครั้งนั้นกำหนดเดือนแรกของปีคือ เดือนเมษายน จนถึงเดือนสุดท้ายของปีคือเดือนมีนาคม ซึ่งยังคงใช้รัตนโกสินทรศกเป็นชื่อปีอย่างเป็นทางการ โดยใช้ 1 เมษายน ร.ศ.108 แทนที่ 1 เมษายน พ.ศ.2432 จนกระทั่งเลิกใช้ปีรัตนโกสินทรศกที่ 131 จึงได้เปลี่ยนมาใช้ปีพุทธ