หากพูดถึงนาฬิการุ่นท็อปของ Rolex หนึ่งในนั้นต้องมีรุ่น Explorer อย่างแน่นอน จากแรงบันดาลใจสู่การพัฒนาที่ไม่มีวันหยุดนิ่ง ทำให้ Rolex Explorer กลายเป็นนาฬิกาที่เต็มไปด้วยฟังก์ชันตอบโจทย์เพื่อนร่วมทริปของนักสำรวจทั่วโลก ทำไม Rolex Explorer ถึงเป็นเพื่อนคู่ใจ? เพราะตัวเรือนที่ออกแบบให้อ่านค่าเวลาได้สะดวก มีความเที่ยงตรง และทนทานสูง เหมาะสำหรับการผจญภัยในทุกสถานการณ์ไม่ว่าจะไปที่ไหน นาฬิกาเรือนนี้ก็ยังเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับนักเดินทาง และยังคงได้รับความนิยมอยู่เสมอ บทความนี้จะพาไปส่องประวัติของนาฬิกา Rolex Explorer กันให้มากขึ้น พร้อมระบบการทำงานของตัวเรือนมีอะไรบ้าง

จากยอดเขาเอเวอร์เรสต์สู่ Rolex Explorer นาฬิกาคู่ใจนักสำรวจ

แรงบันดาลใจจากวินาทีแห่งประวัติศาสตร์มนุษยชาติ อย่างการพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ครั้งแรกในปี 1953 โดย Sir Edmund Hillary และ Tenzing Norgay ที่ไม่ได้เป็นเพียงหน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์การสำรวจโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้ของมนุษย์ การเดินทางที่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศอันโหดร้ายบนความสูงกว่า 8,848 เมตร ได้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของโครโนมิเตอร์ Oyster Perpetual Rolex ที่ร่วมเดินทางไปด้วย และยังคงทำงานได้อย่างเที่ยงตรงท่ามกลางพายุหิมะและอากาศหนาวเหน็บ ดังคำพูดของ Sir Edmund Hillary ที่ว่า “การฝึกฝนและความมุ่งมั่นของคุณจะผลักดันตัวเองให้ไปข้างหน้าได้ในแบบที่แม้แต่ตัวคุณเองก็ไม่เชื่อว่าเป็นไปได้” หลังจากเหตุการณ์สำคัญนี้ในปีเดียวกัน ก็ได้นำไปสู่การถือกำเนิดของ Rolex Explorer นาฬิกาสำหรับนักสำรวจมืออาชีพ ออกแบบมาเพื่อการผจญภัยโดยเฉพาะ

ฟังก์ชันและดีไซน์ที่ทำให้ Rolex Explorer คงทน แม่นยำ พร้อมผจญภัยไปทุกที่อย่างไม่หยุดยั้ง

จากแรงบันดาลใจในการพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ Rolex Explorer ได้รับการพัฒนาให้เป็นนาฬิกาคู่ใจนักสำรวจ ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูงที่ผ่านการทดสอบมาอย่างหนักในสภาพแวดล้อมจริง เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานในทุกสถานการณ์ ฟังก์ชันเด่นและกลไกที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมีดังนี้

ตัวเรือน Oyster Case เอกลักษณ์เฉพาะแห่งความแข็งแกร่ง

Rolex Explorer ใช้ตัวเรือน Oyster ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการจดสิทธิบัติจาก Rolex ในปี 1926 โดยตัวเรือนประกอบไปด้วยสามส่วนหลัก ได้แก่ ตัวเรือนตรงกลาง ด้านหลังตัวเรือน และกรอบ เริ่มจากตัวเรือนตรงกลางผลิตจากเหล็กกล้า Oystersteel คุณภาพสูงที่โดดเด่นด้วยความแข็งแกร่งและต้านทานการกัดกร่อน พื้นผิวได้รับการขัดเงาอย่างพิถีพิถัน ด้านหลังของตัวเรือนถูกออกแบบให้ปิดสนิทแน่นกับตัวเรือนตรงกลาง ทำให้ให้นาฬิกามีความทนทานสูงสุด สามารถป้องกันน้ำ ฝุ่นละออง และแรงกระแทกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนกรอบ เป็นวงแหวนที่มีคริสตัลล้อมรอบ ขันสกรูและติดตั้งซีลกันน้ำ เพื่อป้องกันน้ำเข้าไปในตัวเรือน ด้วยเทคโนโลยีดังกล่าว Rolex Explorer จึงกลายเป็นนาฬิกาข้อมือเรือนแรกของโลกที่สามารถกันน้ำได้ พร้อมความสามารถในการกันน้ำได้ลึกถึง 100 เมตรจากระดับผิวน้ำ

Twinlock เม็ดมะยมกันน้ำสองชั้น

นาฬิกา Rolex Explorer มาพร้อมเม็ดมะยมไขลานระบบ Twinlock ที่ออกแบบให้ป้องกันน้ำได้ถึงสองชั้น โดยเม็ดมะยมจะถูกขันสกรูยึดเข้ากับตัวเรือน Oyster อย่างแน่นหนา พร้อมสัญลักษณ์เฉพาะบนหน้าเม็ดมะยม ไม่ว่าจะเป็นจุดเดียว สองจุด หรือเส้นขีด ซึ่งบ่งบอกถึงวัสดุที่ใช้ผลิต โดยระบบ Twinlock นี้ประกอบด้วยชิ้นส่วนกว่า 10 ชิ้น ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง เช่น โพลิเมอร์ที่ใช้ทำซีลกันน้ำ Oystersteel และทองคำ 18 กะรัต เพื่อมอบความแข็งแรง ทนทาน และมั่นใจได้ในประสิทธิภาพการกันน้ำตลอดการใช้งาน

หน้าปัดโครมาไลต์ แสดงตัวเลข 3, 6, 9 อ่านเวลาได้อย่างแม่นยำ

Rolex ออกแบบหน้าปัดมาเพื่อการอ่านเวลาได้อย่างชัดเจนและแม่นยำที่สุด โดยใช้ Chromalight Display ที่เคลือบสารเรืองแสงพิเศษ ทำให้มองเห็นได้เด่นชัดแม้ในสภาพแสงน้อยหรือในที่มืดสนิท พร้อมตัวเลขขนาดพอดีที่ตำแหน่ง 3, 6 และ 9 อ่านง่ายในทุกมุมมอง หน้าปัดโครมาไลต์ถูกเปิดตัวครั้งแรกในปี 2008 และในปี 2021 Rolex ได้ยกระดับด้วยการพัฒนาสารเรืองแสงรุ่นใหม่ ที่ให้แสงสีฟ้าเด่นชัดยิ่งขึ้นในที่มืด พร้อมทั้งยังเปล่งประกายเป็นสีขาวสว่างสะดุดตาในเวลากลางวัน มอบประสบการณ์การอ่านเวลาที่สมบูรณ์แบบในทุกสถานการณ์

คาลิเบอร์ 3230 ทนทานแม้อากาศแปรปรวน

กลไกคาลิเบอร์ 3230 ของ Rolex Explorer ถูกออกแบบมาเพื่อมอบประสิทธิภาพสูงสุด โดยทำงานร่วมกับแฮร์สปริง Parachrom และระบบกลไก Chronergy ที่ได้รับการจดสิทธิบัตรจาก Rolex ทำให้ทนทานต่อแรงกระแทกและสนามแม่เหล็กได้ดีเยี่ยม อีกทั้งยังคงเสถียรแม้ต้องเผชิญกับสภาวะอากาศที่แปรปรวน ความเที่ยงตรงได้รับการเสริมด้วยไขควงน็อตปรับเวลาทองคำที่ยึดเข้ากับตัวดูดซับแรงกระแทก Paraflex ส่งผลให้คาลิเบอร์ 3230 เป็นกลไกที่มีสมรรถนะสูงและเชื่อถือได้ โดยมีค่าความคลาดเคลื่อนเพียง -2/+2 วินาทีต่อวัน เท่านั้น!

 

นับตั้งแต่ความสำเร็จของมนุษย์ในการพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของโลกได้เป็นครั้งแรกมาจนถึงปัจจุบัน Rolex Explorer ก็ยังคงทำหน้าเป็นผู้ช่วยนักสำรวจได้อย่างมืออาชีพและมีประสิทธิภาพ ด้วยการเดินทางไปในเส้นทางที่คาดเดาได้ยาก ด้วยคุณสมบัติเฉพาะทั้งตัวเรือน Oyster Case เม็ดมะยม Twinlock หน้าปัดโครมาไลต์ที่แสดงผลได้ในทุกสภาพแสง และกลไกคาลิเบอร์ 3230 ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Rolex ทำให้ Rolex Explorer เป็นนาฬิกาเรือนแรกที่นักสำรวจหลายคนอยากมีไว้ในครอบครองสักเรือน หากมองหา Rolex ไว้สักเรือนเป็นผู้ช่วยฟันฝ่าทุกสถานการณ์ ที่ Pendulum ตัวแทนจำหน่าย Rolex อย่างเป็นทางการในประเทศไทย พร้อมคอลเลกชันนาฬิกาให้เลือกหลากหลายรุ่น สามารถเลือกชมเพิ่มเติมหรือสัมผัสความพิเศษของ Rolex ได้ที่เว็บไซต์เพนดูลัม

Share.