รีวิวประสบการณ์ตรง !! อุทาหรณ์ ทำปากกระจับคิดก่อนทำดีๆ

อ่าน 6,973

สวัสดีค่สาวๆทุกคน การศัลยกรรมเป็นสิ่งหนึ่งที่หลายๆคนให้ความสนใจในสมัยนี้ จริงๆแล้วการศัลยกรรมมันก็เป็นเรื่องที่ดีถ้าเราทำมันอย่างถูกต้อง ศึกษาก่อนทำทุกคร้ง เพราะถ้าเกิดความผิดพลาดแล้ว สิ่งที่ตามมามันอาจจะไม่มีทางแก้ไขเลยก็ได้ วันนี้เราเลยอยากนำเรื่องราวที่เรียกได้ว่าเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนที่อยากศัลยกรรมปากกระจับ เป็นรีวิวจากสมาชิกพันทิป สมาชิกหมายเลข 3217103 ที่ได้เขียนรีวิวจากประสบการณ์ของตัวเองเอาไว้ เผื่อเตือนทุกๆคนในเรื่องการตัดสินใจทำศัลยกรรม ไปดูกันเลยค่ะ

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาบอกเล่าประสบการณ์หลังจาก ทำปากกระจับและปัญหาเกี่ยวกับการทำฟันนะคะ เราจะไม่ขอเล่าในส่วนขั้นตอนการทำปากกระจับนะคะ เพราะขั้นตอนการทำมันง่ายและรวดเร็วไม่เกินชั่วโมงก็เสร็จ แต่หลังจากนั้นมันเป็นปัญหาที่ยาวนานและตลอดชีวิต

เริ่มแรกนะคะคือปากของเราเนี่ย ไม่ได้ใหญ่เลย และยิ้มกว้างมากแต่ที่อยากทำปากกระจับเพราะว่าอยากจะมีปากที่สวยงามเหมือนเด็กสาว ตอนทำเสร็จใหม่ๆนี่ทรมานมากที่สุดค่ะ แปลงเพศว่าทรมานแล้ว (เราเป็นสาวประเภทสอง) ทำปากทรมานกว่ามากค่ะ เพราะจะกินอะไรไม่ได้เลย แปงฟันไม่ได้ กินได้แต่นมค่ะ ลาบาก แล้วปากเรากว่าจะได้ตัดไหม14วันเลย เพราะว่ามันไม่ยอมแห้ง และเหวอะบางส่วนเพราะเราดึงหนังที่มันเป็นคราบแข็งออกทำให้ไหมบางส่วนหลุด

ทุลักทุเล ลำบากมากๆกว่าจะหายและกินข้าวได้ โอเคตอนแรกเราว่าจะไม่โพสต์ภาพตอนทำแล้ว แต่โพสต์ดีกว่านะคะเพื่อให้ครบองค์ประกอบ

เราทำเมื่อ 18 กันยายน 2015  เป็นวันแรกที่ทำค่ะ เรามาดูภาพกันนะคะ

ตอนนั้นที่ทำ เราไม่ได้บอกหมอและไม่ได้คุยอะไรมากมาย นอนบนเตียงและทำเลย ตามที่หมอต้องการค่ะ ขอไม่บอกนะคะว่าคลีนิคไหน เพราะไม่ได้ต้องการอะไรจากคลีนิคอีกแล้วค่ะ

ทำเสร็จแอบตกใจกระจับเพราะมัน งอนเหมือนนกเงือกที่ป่าอเมซอนเลยค่ะ เราก็บอกว่าโอเคๆบวมอยู่นะคะ และต่อไปจะเป็นภาพวันต่อๆไปนะคะ ที่เป็นวันที่อันตรายและทรมานที่สุดในชีวิตของเราเลยล่ะค่ะ นับจากแปลงเพศก็ทำปากนี่ล่ะ ตอนทำไม่เจ็บเพราะยาชา แต่ยาชาหมดฤทธิ์นี่ล่ะเจ็บมากๆ

สำหรับรูปวันที่ห้าเห็นอะไรไหมคะ ภาพข้างๆ คือเป็นจะงอยชัดเจน เหมือนเอายางมารัดตรงปลายปากเลย ข้างๆเหมือนไม่มีเนื้อเลย ตอนนั้นเริ่มนอยและคิดว่า เอิ่มมมมม มันทุเรศมากจริงๆ แต่ก็แอบปลอบใจว่าแค่5วันเอง

และภาพที่เราถ่ายวันสุดท้ายก่อนไปหาหมอ ครบ7วันค่ะ เห็นอะไรไหม จะงอย ยังอยู่ตอนนั้นเรานอยมากแต่แอบดีใจนึกว่าได้ตัดไหม แต่ก็ไม่ได้ตัดเพราะแผลเหวอะไหมหลุดบางส่วนและแผลไม่แห้งค่ะ กว่าจะได้ตัดก็ผ่านไปอีก7วัน

ความทรมานนอกจากการกินคือ หัวเราะและยิ้มไม่ได้เลยเหมือนแผลจะฉีกค่ะ  แต่ก็ผ่านมาได้นะคะ เอาล่ะต่อไปเราจะเล่าสิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือ เมื่อแผลหายดีแล้ว เรานวดแบบคลึงๆๆๆ ตลอดตามที่หมอแนะนำและคนในเน็ตแนะนำเพราะมันจะเป็นผังผืดและปากจะดึงหุบเข้าไป

เราก็นวดตามที่เขาบอกล่ะค่ะ แต่ก็ไม่ได้นิ่มแต่อย่างใด ยิ่งนวดก็ไม่เห็นจะนิ่มเลย ปากแข็งมากตึงมากยิ้มไม่ได้ค่ะ และยิ้มเห็นเหงือก ก่อนทำปากเราจะยิ้มสวยมากและไม่เห็นเหงือกค่ะ ที่ไปทำเพราะคิดจะทำแค่ปากบนให้เป็นกระจับ

ปัญหาที่เราเจอคือ ปากเล็กลงมากและยิ้มไม่ได้มาก ตอนนี้ผ่านไปเกือบเกือบจะหนึ่งปีแล้ว ยังยิ้มได้ไม่เต็มที่เลยเพราะมันตึงที่ปากบนและ ขอบปากเหมือนเล็กลงจนยิ้มกว้างไม่ได้เลยค่ะ

คือสวยนะเวลาไม่ยิ้ม แต่เวลายิ้มคือดูเหมือนผีมากๆค่ะ จนเราไม่กล้ายิ้มและไม่อยากยิ้มเลย เพื่อนเราก็ทักว่ายิ้มไม่สวยเลยและเห็นเหงือก เราเลยพยายามยิ้มแบบฝืนๆ แต่มันก็ดูรู้ว่าฝืนเพราะปากมันตึงและเหมือนถูกดึงเวลายิ้มค่ะ

จากคนปากกว้างยิ้มสวยกลายเป็นปากเล็กเท่ารูเข็มเหมือนเปรต และไม่มีความมั่นใจในตัวเองเลยเวลายิ้ม เวลาไม่ยิ้มเหมือนเราเซ็กซี่นะคะ แต่เวลายิ้มคือดูทุเรศมากๆ

ตอนนี้เราจะโพสต์รูป ก่อนที่จะทำปากนะคะ เพื่อให้ดูข้อเปรียบเทียบและจะได้หวาดกลัวกันบ้าง การศัลยกรรมทำให้แย่ลงได้ ถ้าไม่เลือกหมอดีๆ และที่สำคัญร่างกายของเราพร้อมไหม เพราะเราคิดว่าเนื้อเราไม่พร้อมกับการตัดปากเลย

โอเค นี่คือภาพรอยยิ้มก่อนทำนะคะ คือเราทำใจไม่กลับไปดูภาพพวกนี้ถ้าทำได้ เพราะมันสวยกว่าตอนนี้ สมัยก่อนเราชอบถ่ายรูป ยิ้มหวานเกือบทุกรูปค่ะ แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว ยิ้มก็ไม่ได้ ยิ้มแล้วน่ากลัว มีคนถามเราว่าทำไมไม่ยิ้มเราจะยิ้มได้ไง ในเมื่อมันไม่สวยจากคนร่าเริงยิ้มง่าย กลายเป็นคนยิ้มยาก คนหน้าดุไปเลยค่ะ

เราเสียใจมากกับการตัดสินใจที่ผิดพลาดของเรา ปากมันไม่ใช่จมูกตัดแล้วคือตัดเลยไม่รู้ที่ไหนจะรับแก้บ้าง แต่ไม่กลับไปที่เดิมอีกแน่นอน เพราะเราออกมาหลังจากตัดไหมก็ไม่ได้กลับไปอีกเลยค่ะ

โอเคต่อไปมาดูปัจจุบันของเรานะคะ เราแทบจะไม่มีภาพยิ้มเลยนะ เพราะไม่อยากถ่ายตอนยิ้ม ภาพตอนยิ้มคือน่าเกลียดมากๆ ส่วนมากมีแต่ภาพที่ไม่ยิ้มเพราะมั่นใจกว่า แต่อยากยิ้มนะคะ แต่ไม่ยิ้มจะดีกว่า

รูปแซ็ทนี้คือผ่านมาไม่กี่อาทิตย์นี่เองค่ะ เห็นไหมคะ เราถ่ายและยิ้มไม่เห็นฟันเลยสักรูป รูปปากก็เปลี่ยนไปอย่างที่เราบอกคือเห็นเหงือกถ้ายิ้ม และมันดูตึงไปหมด นี่ขนาดผ่านมาจะปีหนึ่งแล้วนะคะ แต่นี่คือดีขึ้นกว่าช่วงแรกนะคะ แรกๆนี่ยิ้มไม่ได้เลย อ้าปากได้พอให้ช้อนข้าวเข้าปาก

และล่างนี้คือล่าสุดจริงๆค่ะ เมื่อวานนี้เอง ปากเริ่มนิ่มขึ้น แต่ก็ยังตึงเวลายิ้ม เวลาไม่ยิ้มก็โอเคค่ะชอบ แต่เวลายิ้มนี่ไม่สวยและตึงมาก ปากก็แคบมากๆค่ะ

เห็นไหมคะ ภาพเปรียบเทียบ บนคือทำแล้วล่าสุดเวลายิ้ม ปากไม่เป็นธรรมชาติเลยค่ะ ตึงมากๆ ไม่ชอบเลย

โอเคเราโพสต์คืออยากจะเตือนใจนะคะว่าถ้าทำแล้วแย่กว่าเดิมเราจะไม่ทำ ถ้าหากเราเลือกได้ย้อนเวลาได้เราจะไม่ทำปากเลยค่ะ

จบเรื่องปากนนะคะ มาเรื่องฟันบ้าง คือเมื่อวานเราไปคลีนิคทำฟันเพราะฟันซี่หน้าเราเสียที่เคยอุดมันหลุดเพราะอุดหลายปีแล้วและอยากจัดฟัน เพราะฟันล่างของเรา เก ค่ะ เราไปหาหมอฟันเช็คปากที่คลีนิคประจำค่ะ ปกติเราจะเข้าไปทุกหกเดือน แต่พอเราทำปากเราไม่ได้เข้าไปเลยค่ะ เกือบปีแล้วและที่สำคัญคือไม่กล้าไป

เพราะว่าเราทดลองอ้าปากแล้วมันอ้าได้ไม่มาก 60% จาก 100% ของก่อนทำปากอ่ะค่ะ อยากจะถ่ายรูปตอนอ้าปากให้ดูแต่ไม่สะดวกตอนนี้เดี๋ยวเอาไว้ก่อนนะคะ

เวลาอ้าปากเหมือนมันตึงปากบนและตึงตรงขอบปากทั้งสองข้างรู้สึกเหมือน ต้องไปตัดขอบปากให้ยาวกว่านี้อ่ะค่ะ ไม่รู้จะทำได้ไหม กลัวการทำปากไปเลยค่ะ

โอเคทีนี้เราทนไม่ไหวแล้วอย่างน้อยขูดหินปูนก็ยังดี เมื่อวานเข้าไปคลีนิคพี่ที่คลีนิคทักว่าหน้าเปลี่ยนไป เราก็บอกว่าทำปากมา พี่เขาทำท่าตกใจแล้วถามว่าทำมานานยังเราบอกว่าทำมาเกือบจะครบปีแล้ว

ตอนนั้นคือรู้ตัวค่ะว่าจะอ้าปากไม่ได้กว้าง ลองอ้าจนถึงขีดสุดด้วยตัวเองก็ได้ไม่มาก รู้สึกเหมือนตึงและปากจะฉีก แต่เหมือนไม่กว้างนะ แต่รู้สึกเหมือนจะฉีกค่ะ

เข้าไปพบหมอฟันตื่นเต้นมากๆ เข้าไปหมอถามว่าหายไปนานเลยเราเลยบอกว่าไปทำปากมาค่ะ หมอก็ไม่ได้ว่าอะไรแล้วให้เราขึ้นนอนเป็นเตียงแล้วให้อ้าปาก

เท่านั้นล่ะอ้าไม่ได้กว้างหมอดูไม่ถนัดและไม่เวิร์คเลยค่ะ โดนหมอด่าเลย มันอ้าไม่ได้ ใส่เครื่องถ่างถ่างได้นิดเดียว เหมือนปากเด็กอนุบาลอ่ะค่ะ อารมณ์นั้น แต่ฟันใหญ่อ่ะ คือเข้าใจเปล่า เด็กปากเล็กฟันเล็กมันสมส่วน แต่เราปากเล็ก ฟันใหญ่ อ้ากว้างไม่ได้

ร้องตลอดว่าเหมือนปากจะฉีก หมอก็กลัวปากเราจะฉีกจริงๆค่ะเพราะมันตึง หมอถามว่าทำไมตึงอย่างนี้ คือเป็นไตที่ปากมันจะหายหมดแล้วนะคะ ปากนิ่มแล้วแต่เวลายิ้มเหมือนมันตึง

เหมือนเราลองดึงหนังยางที่แข็งๆอ่ะค่ะ อยากจะดึงให้กว้างแต่มันตึงและดึงไม่ได้ เศร้า หมอดูผ่านๆเรามีฟันกรามผุด้านในสุดและต้องอุด แต่เราอ้าปากกว้างไม่ได้ มันลำบากมากๆค่ะ

แต่หมอก็ใจดีอยู่นะ ยังให้พี่ผู้ช่วยใช้วิธีเปิดปากทีละข้าง อารมณ์เหมือนกับเราเอานิ้วเข้าไปในปาก แล้วเอานิ้วชิดขอบปากด้านใดด้านหนึ่งแล้วดึงริมปากออกให้กว่าที่สุด แล้วทำ แต่คือมันลำบากมากจริงๆ มันลำบากมากกับการทำฟัน โชคดีที่หมอเรารู้จักไม่งั้นหมออื่นคงไล่เราไปทำให้ปากกว้างๆก่อนแน่ๆค่ะ

แต่ทำได้นะ แต่ลำบากทั้งหมอทั้งเราบอกเลยค่ะ สบายแค่ตอนทำฟันหน้าแค่นั้นทำแบบไม่ต้องอ้าปากค่ะ แค่ดึงปากบนขึ้น เห็นไหมปัญหาไม่จบ หมอถามเราเลยว่าไปกรีดปากด้านมุมปากให้กว้างได้ไหม มันไม่โอเคสำหรับหมอเลยและเราด้วย

คือทำไงดี เราจะทำไงดีคะ ขอคำแนะนำด้วย คือมันเป็นไปได้ไหมคะสำหรับปากเรา ที่จะไปให้หมอกรีดขอบปากให้กว้างเหมือนเดิม ใครมีประสบการณ์เหมือนเราและกำลังเป็นอยู่เรามาทำกลุ่มไลน์กันไหม หรือมีหมอที่ไหนแนะนำช่วยเราทีค่ะ

ตอนนี้เหมือนตกนรกทั้งเป็นค่ะ ยิ้มไม่ได้ ทำฟันไม่ได้เพราะอ้าปากลำบาก จัดฟันไม่ได้ คือมันเป็นผลกระทบมากๆค่ะ ขอบคุณนะคะที่อ่านมาถึงตรงนี้ หลังจากนี้เราจะลองหาหมอศัลยกรรมใหม่แล้วค่ะ ใครมีแนะนำบ้าง ขอแค่ทำให้อ้าปากได้กว้างกว่าเดิมแค่นั้นค่ะ

อ่านลิงค์เต็มๆได้ที่ : (รีวิว) อุทาหรณ์ ทำปากกระจับคิดก่อนทำดีๆ และปัญหาเมื่อไปทำฟัน เป็นความผิดพลาดที่สุดในชีวิตเราค่ะ

สกินแคร์

เครื่องสำอาง แม่และเด็ก คลินิก สุขภาพ สกินแคร์ แต่งหน้า ทรงผม ทำเล็บ แฟชั่น ความรัก ดูดวง วาไรตี้ ลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย คติสอนใจ ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร ร้านคาเฟ่