วิธีการดูแลผิวหน้าไม่ให้เกิดปัญหา "สิวอุดตัน"

อ่าน 1,638

เมื่อพูดถึงปัญหาสิว แน่นอนว่า เป็นปัญหาที่หลายคนไม่อยากให้เกิดขึ้นกับใบหน้าของตน แม้จะเป็นเพียงเม็ดเล็กๆ แต่เมื่อเกิดสิวขึ้นบนใบหน้าแล้ว ย่อมก่อให้เกิดความกังวลใจ และผิวหน้าที่ไม่เรียบเนียน แถมยังทิ้งจุดด่างดำ รูหลุมสิว ไว้บนใบหน้าอีกด้วย หากไม่อยากเผชิญกับปัญหาผิวเหล่านี้ ต้องรู้จักการดูแลผิวหน้าไม่ให้เกิดปัญหา "สิวอุดตัน" เพราะสิวอุดตัน คือจุดเริ่มต้นของปัญหาสิวก่อนที่จะรุกลามกลายเป็นสิวชนิดอื่นๆ - ทำอย่างไรเมื่อเป็นสิวอุดตัน ?

ทำอย่างไรเมื่อเป็นสิวอุดตัน ?

ดร.ภญ.จิรวรรณ โอพรสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.เอ.เดอร์มาเทค จำกัด ผู้นำด้านการผลิต วิจัยและพัฒนา เครื่องสำอางและเวชสำอางที่ได้รับรองมาตรฐาน ISO 22716/ COSMETICS GMP ระดับสากล ได้อธิบายเกี่ยวกับ สิวอุดตันในความเข้าใจของคนทั่วไปอย่างง่ายว่า "สิวอุดตัน คือ สิวขนาดเล็ก ชนิดไม่อักเสบ จะนูนเป็นตุ่มอุดตันอยู่ชั้นใต้ผิวหนัง ซึ่งแบ่งเป็น 2 ชนิดที่พบบ่อย คือ สิวหัวขาว และ สิวหัวดำ"

ดร.ภญ.จิรวรรณ กล่าวต่อว่า "สิวหัวขาว" หรือ "สิวหัวปิด" จะเป็นตุ่มนูน หากใช้มือลูบไล้จะรู้สึกคล้ายกับมีไตก้อนเล็กๆ อันเกิดจากการอุดตันของไขมันและเซลผิวที่ตายแล้วสะสมอยู่ภายในรูขุมขน ไม่มีการอักเสบ แต่เมื่อเกิดการติดเชื้อ หัวสิวก็จะขยายใหญ่ขึ้น บวม แดง กระทั่งกลายมาเป็นสิวที่เราเรียกว่าอักเสบ ในที่สุด

ลักษณะสิวแบบต่างๆ

ส่วน "สิวหัวดำ" หรือ "สิวหัวเปิด" นั้น มีลักษณะเป็นตุ่มนูนเม็ดเล็กและมีรูเปิด ลักษณะการอุดตันจะคล้ายกับสิวหัวปิดแต่เนื่องจากหัวเปิดทำให้เห็นหัวสิวเป็นจุดสีดำได้อย่างชัดเจน ซึ่งสีดำที่มองเห็นเกิดจากการทำปฏิกิริยาของน้ำมันกับออกซิเจนนั่นเอง

สาเหตุของการเกิดสิวอุดตัน

สิวอุดตัน เกิดจากการอุดตันของเซลล์เยื่อบุผิวหนังที่ตายแล้ว ผสมเข้ากับน้ำมันบนใบหน้าที่ผลิตจากต่อมไขมันใต้ผิวหนัง โดยการอุดตันจะเริ่มจากภายในรูขุมขนใต้ผิวหนัง โดยปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดสิวอุดตันนั้น มีมากมาย อาทิ

- ฮอร์โมนเพศชายเทสโทสเทอโรน (Testosterone) ทำงานมากเกินไป จึงกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากเกินปกติ

- เกิดจากผิวสัมผัสกับสารเคมีต่างๆ เช่น การใช้เครื่องสำอาง รองพื้น ครีมบำรุงผิว ที่มีส่วนผสมของน้ำมันจึงทำให้ผิวหน้ามีความมันมากยิ่งขึ้นหรือน้ำมันต่างๆ จากเครื่องสำอางลงไปเพิ่มการอุดตัน ซึ่งหากล้างทำความสะอาดไม่ถูกต้องจะทำให้เกิดการอุดตันและตกค้างในรูขุมขนนั่นเอง

- ภาวะผิวหนังมีน้ำมันมากเกินไป โดยจะพบบ่อยในสตรีก่อนมีประจำเดือน

- รวมไปถึงการบีบ แกะสิว การขัดผิวหน้า และการลอกหน้า ที่ทำให้เกิดความเสียหายรุนแรงต่อผิวหน้าทำให้รู้ขุมขุนเปิดกว้างจึงทำให้สิ่งสกปรกเข้าไปอุดตันรูขุมขนได้ง่าย เป็นต้น

"แม้สิวอุดตันจะเกิดในชั้นใต้ผิวหนัง แต่เมื่อเกิดเป็นก้อนใต้ผิวหนัง จะส่งผลให้ผิวภายนอกเป็นรอยนูน ทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียน และแม้สิวอุดตันเล็กๆ น้อยๆ จะไม่ส่งผลให้มีอาการเจ็บปวด แต่หากไม่ดูแลอย่างถูกต้องอาจเกิดการติดเชื้อและกลายเป็นสิวอักเสบได้ในที่สุด หรือหากกำจัดสิวอุดตันไม่ถูกวิธี อาจทำให้กลายเป็นรอยแผลเป็นทิ้งไว้บนใบหน้าได้อีกด้วย" ดร.ภญ.จิรวรรณ กล่าว

การป้องกันสิวอุดตัน

ขณะที่การป้องกันและการแก้ปัญหาสิวอุดตันนั้น "ดร.ภญ.จิรวรรณ" ได้แนะนำการดูแลผิวเป็นสิวไว้ 2 แนวทางได้แก่

1.การป้องกันการเกิดสิวอุดตันง่ายๆ ด้วยตนเอง

1. โดยเริ่มจากล้างทำความสะอาดบริเวณผิวหน้าอย่างถูกวิธีวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ทำให้ใบหน้าแห้ง ระคายเคืองกับผิว โดยเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยนต่อผิว

2. ผู้มีปัญหาสิวอุดตันควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของน้ำมันมาก เนื่องจากปัญหาสิวอุดตันส่วนหนึ่งมาจากปริมาณน้ำมันในชั้นผิวหนังส่วนเกิน จึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าหรือเครื่องสำอางไม่ทำให้ความมันบนใบหน้าเพิ่ม โดยอาจสังเกตสัญลักษณ์ที่ระบุบนฉลากว่า Non comedogenic

3. ปกป้องผิวจากแสงแดด เนื่องจากแสงแดดและอากาศร้อนจะทำให้ผิวแห้งกร้านและกระตุ้นให้เซลล์ผิวผลิตน้ำมันมาล่อเลี้ยงผิวเพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิวมากขึ้นทำให้เกิดเป็นสิวขึ้น

4. หลีกเลี่ยงการทำร้ายหน้าด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การบีบเค้น การแกะ การเกา ต่างๆ เพราะจะเป็นการทำร้ายผิวและเป็นการเปิดช่องผิวให้เกิดการอักเสบติดเชื้อตามมา

2.การรักษาสิวอุดตันด้วยการใช้ยา

โดยสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาที่มีเภสัชกรให้คำแนะนำในการใช้ยาและผลข้างเคียง เช่น

1. การรักษาสิวอุดตันด้วยยาทาเฉพาะที่เพื่อช่วยเปิดหัวสิว อาทิ เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) ช่วยรักษาสิวอุดตันและสิวอักเสบได้ จะมีข้อควรระวังเรื่องการทำให้เกิดการระคายเคืองที่ผิวหนัง ทำให้ผิวแห้งลอก และมีรอยด่างชั่วคราวบริเวณที่ทายา

2. การรักษาสิวอุดตันด้วยยาทา กลุ่ม "อนุพันธ์ของกรดวิตามินเอ" โดยจะทำหน้าที่ยับยั้งสาเหตุของ การเกิดสิว เช่น กดการทำงานของต่อมไขมันทำให้ผลิตสารที่เป็นไขมัน (sebum) ลดลง และยับยั้งการสร้างคอมีโดน (comedone) เช่น Tretinoin (trans-retinoic acid, vitamin A acid) ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการพลัดของเซลล์ผิว ทำให้สิวอุดตันชนิดสิวหัวปิด กลายเป็นสิวหัวเปิดและหลุดออกมา

ช่วยลดการเกิดการอักเสบของสิวและลดการเกิดสิวอุดตันที่อาจจะเกิดขึ้นใหม่ได้ แต่จะมีผลข้างเคียงเรื่องการระคายเคือง หน้าแห้ง ผิวอาจจะไวต่อแสง และที่สำคัญคือมีข้อห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์ เนื่องจากยาชนิดนี้มีรายงานว่าสามารถก่อให้เกิดความพิการต่อทารกในครรภ์ได้

3. รักษาสิวด้วย "ยาประเภทฮอร์โมน" ใช้เป็นทางเลือกสำหรับผู้หญิงที่เป็นสิวระดับปานกลาง หรือ รุนแรงที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษามาตรฐาน หรือมีอาการแสดงความผิดปกติของระบบไร้ท่อ ใช้เมื่อแพทย์แนะนำ ส่วนอาการข้างเคียง อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน น้ำหนักตัวเปลี่ยนแปลง เจ็บคัดตึงเต้านม มีปฏิกิริยาทางผิวหนัง มีผลกับประจำเดือน เป็นต้น

**เนื่องจากยารักษาสิวอาจส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงรุนแรง การใช้ยารักษาสิวต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์และเภสัชกรเท่านั้น

กำจัดสิวอุดตันด้วยการทำหัตถการต่างๆ

1. การกดสิว หลังกดสิวอุดตันออก จะทำให้เกิดรอยแดงและรอยแผลเป็นและทำให้รูขุมเปิดกว้าง

2. การใช้กรดผลไม้ผลักดันลงใต้ผิวเพื่อผลัดเซลล์ผิว ให้หัวสิวหลุดออกมาได้ง่ายขึ้น

3. การกรอผิว ด้วยผลึกคริสตัลขนาดเล็กกรอลอกผิวบริเวณที่เป็นสิว ทำให้สิวที่อุดตันบริเวณนั้นหลุดออกไป

การดูแลรักษาสิวอุดตันที่เป็นน้อยๆ หรือปานกลาง สามารถที่จะดูแลตัวเองได้โดยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเป็นสิวที่ไม่ทำร้ายผิว อ่อนโยน เลือกที่ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนังแล้วว่าไม่แพ้ระคายเคือง แต่หากต้องรักษาด้วยยาหรือหัตถการเพื่อความปลอดภัยต้องอยู่ใต้การดูแลของแพทย์และเภสัชกรซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาในการรักษาพอสมควรขึ้นอยู่กับปริมาณและความรุนแรงของปัญหาสิว

นอกจากนั้นยังมีข้อปฏิบัติทั่วไปสำหรับคนที่มีผิวเป็นสิว โดย ดร.ภญ. จิรวรรณ ได้แนะนำว่า ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า หรือ บริเวณที่เป็นสิว เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อแบคทีเรียที่เกิดจากสิวแพร่ไปยังผิวบริเวณอื่น การสัมผัสยังกระตุ้นทำให้ผิวเป็นรอยแดง ระคายเคือง การแคะแกะเกาก็จะทำให้เกิดรอยแผลเป็นได้ และให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางที่มีคุณภาพ ได้รับมาตรฐาน ซึ่งมีคุณสมบัติควบคุมความมันบนใบหน้าและระบุว่าเป็นสูตร non-comedogenic หรือสูตรที่ไม่ก่อให้เกิดปัญหาสิวอุดตันนั้นเอง

หลีกเลี่ยงแสงแดด หรือสัมผัสกับแสงแดดจ้าหรืออยู่ท่ามกลางแสงแดดจ้า เป็นเวลานาน ที่สำคัญ คือ ต้องรักษาความสะอาดบนใบหน้า ด้วยการล้างหน้าด้วยน้ำสะอาดอย่างถูกวิธี ล้างเครื่องสำอางก่อนเข้านอน รวมถึงพักผ่อนให้เพียงพอ เลือกอาหารที่รับประทานให้หลากหลาย ดูแลระบบขับถ่ายให้เป็นปกติด้วย


วาไรตี้

เครื่องสำอาง แม่และเด็ก คลินิก สุขภาพ สกินแคร์ แต่งหน้า ทรงผม ทำเล็บ แฟชั่น ความรัก ดูดวง วาไรตี้ ลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย คติสอนใจ ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร ร้านคาเฟ่