ปัญหาสิวซ้ำซากที่ทำให้สาวๆ หนักใจ มีวิธีดูแลยังไงมาดูกัน!

อ่าน 1,387

หนึ่งในปัญหาผิวหน้าที่ทำให้สาวๆ หนักใจเป็นอย่างมากคงจะไม่พ้นเรื่อง "สิว" ใช่ไหมล่ะคะ บางคนไปหาหมอก็แล้ว ซื้อยารักษาสิวมาใช้ก็แล้ว แต่สิวยังขึ้นซ้ำซาก เป็นๆ หายๆ ไม่เคยหน้าเกลี้ยงสักที ซึ่งเราชวนทุกคนมาเจาะลึกกันว่า เราทำอะไรพลาดไปทำไมสิวไม่หายไปสักที จะมีวิธีดูแลสิวยังไง? ใช้ยารักษาสิวหรือเจลแต้มสิวตัวไหน? เรามีคำตอบจ้า

สิวไม่หายเพราะ "ไม่รู้สาเหตุของการเกิดสิว"

ทำไมสิวไม่หายสักที? การจะรักษาสิวให้หายขาด เราต้องรู้ว่าสิวที่ขึ้นเกิดมาจากอะไร? ส่วนใหญ่แล้วเกิดจากการผลิตน้ำมันในผิวมากเกินไป เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วไปอุดตันรูขุมขน หรือการติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณผิวหนังที่ก่อให้เกิดสิวอักเสบ รวมถึงฮอร์โมนก็มีส่วนทำให้เกิดสิวได้เช่นกัน ฉะนั้นวิธีดูแลรักษาควรล้างทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยนวันละ 2 ครั้ง เช็ดเครื่องสำอางด้วยคลีนซิ่งสูตรน้ำที่สามารถขจัดสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขนและผิวได้โดยไม่ระคายเคือง ครีมบำรุงควรปราศจากสารที่ก่อให้เกิดการอุดตัน หรือมีคุณสมบัติลดการอักเสบและยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย

สิวไม่หายเพราะ "เลือกยาไม่ตรงกับสิว"

จริงๆ แล้วสิวมีอยู่หลายประเภท เราต้องรู้จักก่อนว่าตัวเองเป็นสิวประเภทไหน สิวอุดตันหรือสิวอักเสบ ถ้าเป็นสิวอุดตันอย่างสิวเสี้ยน สิวหัวขาว สิวหัวดำ ให้ใช้ยาละลายหัวสิว เช่น Banzac ทาบางๆ ก่อนล้างหน้าช่วยให้สิวอุดตันหลุดง่ายขึ้น เช็ดเครื่องสำอาง ล้างหน้าให้สะอาด อย่าไปสัมผัสบ่อยๆ เพราะมีโอกาสกลายเป็นสิวอักเสบได้สูง ส่วนสิวอักเสบตุ่มนูนแดงหรือสิวหัวหนอง ควรใช้ยาแต้มสิวที่มีส่วนผสมหลักของ Clindamycin ที่มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ช่วยรักษาสิวอักเสบได้ดี

สิวไม่หายเพราะ "เปลี่ยนยาทาสิวไปเรื่อยๆ"

การทายาสิวอักเสบติดเชื้อต้องทายาอย่างต่อเนื่องถึงจะเห็นผล เช่นเดียวกับยาปฏิชีวนะที่จะต้องทานให้ครบกำหนดเพื่อป้องกันอาการดื้อยา ฉะนั้นเราจึงไม่ควรเปลี่ยนยาทาสิวไปเรื่อยๆ เพราะใจร้อน ควรทายารักษาสิวตัวเดิมต่อเนื่องเป็นเวลาอย่างน้อย 6 สัปดาห์ ถึง 2 เดือน แต่ไม่ควรเกินกว่านั้น เพราะอาจทำให้เกิดอาการดื้อยา รักษาสิวไม่หายในระยะยาวได้ การรักษาสิวเราต้องใจเย็น มีวินัย และอดทนกับมันมากๆ

สิวไม่หายเพราะ "กินกระตุ้นสิว"

ยังไม่มีงานวิจัยที่สรุปแน่ชัดว่า ช็อคโกแลต ของหวาน และของมัน ทำให้เกิดสิวเพิ่มขึ้น แต่กลับมีส่วนกระตุ้นให้สิวที่มีอยู่แล้วอักเสบมากขึ้น อีกทั้งยังมีส่วนกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนในร่างกาย รวมถึงต่อมไขมัน ก่อให้เกิดความมัน และเป็นสิวตามมา ฉะนั้นหากสาวๆ คิดว่าตัวเองดูแลผิวอย่างดี แต่สิวไม่หายสักที โดยเฉพาะช่วงที่กำลังเป็นสิวอยู่นั้นให้ลองเลี่ยงอาหารเหล่านี้อย่างน้อย 4 สัปดาห์ แล้วสังเกตความเปลี่ยนแปลงของผิวดูค่ะ

แนะอีกนิดสำหรับการทายารักษาสิว ควรทาเฉพาะบริเวณที่เป็นสิวเท่านั้น เพื่อให้ยารักษาสิวออกฤทธิ์ได้ตรงจุด ไม่ใช่ทาทั่วหน้าเพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ ถ้ารักษาตามวิธีดังกล่าวแล้วสิวยังไม่หายและอักเสบกว่าเดิม ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจรักษาอย่างละเอียดค่ะ


สกินแคร์

เครื่องสำอาง แม่และเด็ก คลินิก สุขภาพ สกินแคร์ แต่งหน้า ทรงผม ทำเล็บ แฟชั่น ความรัก ดูดวง วาไรตี้ ลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย คติสอนใจ ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร ร้านคาเฟ่