ปัญหาใต้ตาคล้ำ ใต้ตาลึก หรือใต้ตาโบ๋ เป็นหนึ่งในจุดที่ทำให้ใบหน้าดูอ่อนล้า เหนื่อยง่าย และดูอายุมากกว่าความเป็นจริง แม้จะนอนพักผ่อนเพียงพอแล้ว แต่ใต้ตาก็ยังดูคล้ำอยู่ดี ปัจจัยเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากความอ่อนเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงพันธุกรรม การสูญเสียคอลลาเจนตามวัย และการยุบตัวของชั้นไขมันบริเวณใต้ตา ซึ่งหนึ่งในวิธีแก้ไขที่ได้รับความนิยมและเห็นผลได้รวดเร็วคือการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ช่วยแก้ตาคล้ำได้อย่างทันใจ

ฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ตาคล้ำ คืออะไร ?

ฟิลเลอร์ (Filler) คือสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิกแอซิด (Hyaluronic Acid: HA) ที่มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ เมื่อฉีดเข้าไปใต้ผิวหนังจะช่วยเติมเต็มพื้นที่ที่ยุบตัวหรือมีร่องลึก รวมถึงเพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นให้กับผิว ซึ่งเมื่อใช้กับบริเวณใต้ตา ก็จะช่วยเติมเต็มร่องลึก ลดความหมองคล้ำ และทำให้ผิวใต้ตาดูเรียบเนียน สดใสขึ้น

ฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ตาคล้ำ เหมาะกับใคร ?

  • ผู้ที่มีปัญหาใต้ตาคล้ำจากโครงสร้าง เช่น เบ้าตาลึก
  • ผู้ที่มีใต้ตาลึกเป็นร่องชัด จนเกิดเงาทำให้ดูหมอง
  • ผู้ที่มีถุงใต้ตาเล็กน้อย และต้องการให้ผิวบริเวณนั้นดูเรียบเสมอกัน
  • ผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดศัลยกรรม และต้องการเห็นผลรวดเร็ว

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

  • เห็นผลทันที หลังฉีดสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ทันที โดยไม่ต้องพักฟื้น
  • ไม่ต้องผ่าตัด ลดความเสี่ยงจากการผ่าตัด เช่น อาการบวมช้ำหนัก หรือแผลเป็น
  • ใช้เวลาน้อย โดยใช้เวลาฉีดเพียงประมาณ 15–30 นาที
  • ผลลัพธ์อยู่ได้นาน ประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์และการดูแลหลังทำ

ข้อควรรู้ก่อนฟิลเลอร์ใต้ตาแก้ตาคล้ำ

  • ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน และใช้ฟิลเลอร์แท้จากแบรนด์ที่ได้รับการรับรอง เช่น Juvederm, Restylane หรือ Belotero
  • ฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เนื่องจากบริเวณใต้ตามีเส้นเลือดจำนวนมาก หากฉีดผิดตำแหน่งอาจเกิดผลข้างเคียงได้
  • หลังฉีดอาจมีอาการบวมเล็กน้อยใน 1–3 วันแรก และจะเข้าที่ภายในประมาณ 7 วัน
  • ควรหลีกเลี่ยงการแตะหรือกดบริเวณที่ฉีด รวมถึงการออกกำลังกายหนักหรือซาวน่าในช่วง 1 สัปดาห์แรก

ฟิลเลอร์ใต้ตาแก้ตาคล้ำ เสริมความมั่นใจได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องพักฟื้น

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์คนยุคใหม่ที่ต้องการแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำแบบเห็นผลไว ไม่ต้องผ่าตัด และปลอดภัยหากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ที่เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละคน เพียงแค่ดูแลให้ถูกวิธี ใบหน้าก็จะกลับมาดูสดใส อ่อนเยาว์ และมีชีวิตชีวาอีกครั้ง

Share.