ปัญหาสิวขึ้นคางซ้ำๆ บอกโรคอะไรได้บ้าง

อ่าน 1,467

ถึงจะผ่านช่วงประจำเดือนไปแล้ว แต่ยังมีสิวขึ้นคางซ้ำๆ มาตลอด.. ถ้าเบื่อปัญหาแบบนี้ มาทำความเข้าใจถึงสาเหตุพร้อมวิธีรับมือกันดีกว่า

เชื่อว่าปัญหาจุกจิกกวนใจสาวๆ หลายคน คงหนีไม่พ้นปัญหาเรื่องสิว โดยเฉพาะบริเวณคางที่ชอบขึ้นวนลูปอยู่ที่เดิมซ้ำๆ ยกทัพมาตั้งแต่สิวอักเสบ สิวผด ไปจนถึงสิวอุดตัน เล่นเอาคางบวม คางระบมไปหมด แถมทำยังไง้ ยังไงก็ไม่หายสักที วันนี้กระปุกดอทคอมเลยมีสาเหตุของการเกิดสิวขึ้นคางและวิธีรักษามาฝาก พร้อมเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ มาไขข้อข้องใจกันว่า การที่สิวขึ้นคางไม่ยอมหายนั้นเกี่ยวกับสุขภาพร่างกายของเราย่ำแย่ลงรึเปล่า ? ถ้าอยากรู้คำตอบแล้วละก็ ตามเรามาทางนี้เลยค่ะ

สิวขึ้นคาง เกิดจากอะไร ?

โดยปกติแล้ว สาเหตุหลักของการเกิดสิวขึ้นคางจะมาจากฮอร์โมนที่แปรปรวนของร่างกาย แต่พฤติกรรมประจำวันที่ผิดหลักอนามัยของเรา ก็มีส่วนทำให้สิวขึ้นที่เดิมซ้ำๆ ไม่หายสักทีเช่นเดียวกัน ซึ่งเราสามารถสรุปสาเหตุได้ดังนี้ค่ะ

1. อาการ PMS (Premenstrual Syndrome)

เป็นอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นในช่วงมีรอบเดือนของคุณผู้หญิง ทำให้รู้สึกเครียดง่าย หงุดหงิดง่าย ฮอร์โมนเริ่มไม่สมดุล เกิดสิวอักเสบตามใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณคาง เพราะระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) สูงขึ้นเพื่อกระตุ้นการทำงานของรังไข่

2. ฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) สูงกว่าปกติ

เป็นอาการผิดปกติตั้งแต่เกิดสำหรับคนที่มีฮอร์โมนแอนโดรเจน หรือฮอร์โมนเพศชายสูงกว่าฮอร์โมนเพศหญิง ส่งผลให้มีผิวมัน รูขุมขนกว้าง เช็ดล้างให้สะอาดหมดจดได้ยาก หากไม่พิถีพิถันเรื่องดูแลผิวให้ดี ก็ทำให้เกิดสิวได้ง่าย

3. ชอบบีบสิวและสัมผัสใบหน้าโดยไม่จำเป็น

เพราะสิ่งของรอบๆ ตัวเราเนี่ยแหละ คือแหล่งสะสมเชื้อโรคชั้นยอด หากเรานำมือที่หยิบจับเหล่านั้นมาสัมผัสใบหน้าต่อ ยังไงก็หนีปัญหาสิวไม่พ้นแน่นอน และการบีบสิวก็ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกต้องเลยแม้แต่น้อย เพราะหากบีบแล้วหัวสิวไม่หลุดทั้งหมด จะยิ่งกระตุ้นให้เกิดสิวอักเสบ และขึ้นเรื้อรัง ซ้ำๆ ตรงจุดเดิมเอาได้

4. เสพติดคาเฟอีน

การดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเอฟีนอย่างชาหรือกาแฟเป็นประจำ จะส่งผลให้ไตทำงานหนักจนเกินพอดี และกระตุ้นให้ฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้เกิดสิวทำงานมากขึ้นอีกด้วย

5. แพ้ผลิตภัณฑ์บางอย่าง

ไม่ได้มีแต่เครื่องสำอางเท่านั้นที่ทำให้ผิวหน้าเกิดแพ้และระคายเคือง แต่รวมถึงยาสีฟัน สบู่ล้างหน้า และแชมพูที่อาจมีสารเคมีอันตรายเป็นส่วนประกอบ ลองนึกภาพตามถึงตอนที่เราแปรงฟันหรือสระผม ผลิตภัณฑ์พวกนี้จะสัมผัสใบหน้าได้อย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก ซึ่งหากแจ็กพ็อตว่ามีสารเคมีที่เราแพ้ขึ้นมา ยังไงก็ต้องเกิดปัญหาสิวขึ้นคาง หรือบริเวณรอบปากอย่างแน่นอน

สิวขึ้นคาง บ่งบอกโรคอะไรได้บ้าง ?

อ้างอิงจาก Face Mapping การวิจัยที่มีไอเดียหลักว่า "ผิวหน้าสามารถบ่งบอกได้ถึงสุขภาพภายในร่างกายที่มีผลกระทบต่อผิวพรรณ" ทำให้เกิดผลวิเคราะห์ออกมาว่า สิวที่คางนั้นเกิดจากปัญหาในลำไส้เล็ก พบบ่อยในคนที่ชอบกินอาหารรสจัดและมีไขมันสูง เพราะอาหารที่มีรสชาติเค็มจัด หวานจัด เผ็ดจัด จะทำให้ลำไส้ทำงานหนักจนเกินไป และอาจรวนจนประสิทธิภาพการย่อยนั้นลดลง ตามมาด้วยปัญหาของเสียตกค้าง หลังจากนั้นร่างกายจะดูดซึมของเสียเหล่านั้นมาใช้แล้วขับออกมาในรูปแบบของสิว ส่วนการกินของหวานหรืออาหารไขมันสูงเป็นประจำ จะเป็นการเพิ่มปริมาณไขมัน ทำให้มีความมันส่วนเกินบนใบหน้ามากขึ้นนั่นเอง

นอกจากนี้ สาวคนไหนที่มีสิวขึ้นคางโดยเฉพาะบริเวณขากรรไกรซ้ำๆ เป็นประจำ แถมยังรักษาให้หายขาดยาก ร่วมกับมีอาการประจำเดือนมาไม่ปกติ อ้วนขึ้น หน้ามันขึ้น กินจุบจิบ ผมร่วง ซึมเศร้า และนอนไม่หลับ ก็อาจเข้าข่ายเป็นโรคถุงน้ำในรังไข่ หรือซีสต์ในรังไข่ ที่เป็นโรคเกิดจากความผิดปกติของฮอร์โมนในร่างกายได้ หากรู้ตัวว่ามีอาการตามนี้ ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ให้มั่นใจจะดีที่สุดนะคะ

สิวขึ้นคาง ควรทำยังไงดี ?

สำหรับวิธีการรับมือสิวขึ้นคาง นอกจากการไปพบแพทย์เฉพาะทางแล้ว สาวๆ ก็ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมควบคู่กับการรักษาไปด้วย เพื่อผลลัพธ์ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพที่สุด

1. รักษาความสะอาดและล้างหน้าให้หมดจด

สำหรับคนที่แต่งหน้าเป็นประจำ ต้องมั่นใจว่าใช้คลีนเซอร์เช็ดเครื่องสำอางให้เกลี้ยงเกลาก่อนล้างด้วยสบู่ หรือโฟมล้างหน้าที่ใช้เป็นประจำ ในส่วนของขั้นตอนการอาบน้ำ ก็ควรล้างหน้าเป็นลำดับสุดท้าย เพื่อชำระล้างสารเคมีตกค้างจากยาสระผมหรือยาสีฟันให้หมดจด ไม่อย่างนั้นจะเกิดการตกค้างของสารเคมีบนใบหน้าแล้วทำให้เกิดสิวในที่สุด นอกจากนี้ควรเช็ดหรือล้างปากหลังกินอาหารทุกครั้งด้วยนะคะ

2. หลีกเลี่ยงอาหารรสจัดและไขมันสูง

ปรับเปลี่ยนโภชนาการมาเน้นกินผักและผลไม้ ที่มีวิตามินและกากใยสูงจำพวก มะละกอ กล้วย ส้ม ผักโขม หรือบร็อกโคลี เพื่อช่วยชำระสิ่งตกค้างในลำไส้ หากอยากดื่มนมสดควรเลือกชนิดไขมัน 0% ยิ่งถ้าสามารถออกกำลังกายและควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสมไปด้วย จะทำให้ฮอร์โมนกลับเข้าสู่สภาวะปกติได้ดียิ่งขึ้นทีเดียว

3. ดูความสะอาดข้าวของเครื่องใช้และพิถีพิถันในการเลือกผลิตภัณฑ์

โดยเฉพาะสิ่งของที่สัมผัสใบหน้าเราประจำอย่าง โทรศัพท์มือถือ ปลอกหมอน ผ้าปูเตียง ผ้าเช็ดหน้า ควรล้างมือให้สะอาดก่อนจับใบหน้าทุกครั้ง ส่วนเครื่องสำอาง แชมพู และยาสีฟันที่ใช้ ก็ควรเป็นแบบสูตรอ่อนโยน ปราศจากสารเคมีอันตราย แอลกอฮอล์ และเป็นแบบ Oil-Free ไม่มีน้ำมัน เพื่อลดความมันส่วนเกิน ไม่ระคายเคืองผิว ไม่เกิดอาการแพ้บนใบหน้า

4. ดูแลสุขภาพกายและใจให้ดีอยู่เสมอ

เพราะความเครียดเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิว สาวๆ จึงควรหากิจกรรมสนุกๆ หรืองานอดิเรกที่ชอบมาผ่อนคลาย เมื่อรู้ว่าตัวเองอยู่ในภาวะตึงเครียด ไม่ว่าจะเป็นการเดินช้อปปิ้ง ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ หรือออกกำลังกาย ที่สำคัญควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดการสูบบุหรี่ รวมถึงพักผ่อนและดื่มน้ำให้เพียงพอ

5. ใช้มาสก์แบบธรรมชาติพิฆาตสิว

หากกลัวว่าจะแพ้ยาแต้มจนสิวเห่อหนักกว่าเดิม แนะนำให้เอาผัก-ผลไม้ที่มีวิตามินเอสูงอย่าง มะเขือเทศหรือมะละกอ มาปั่นแล้วป้ายบริเวณที่เกิดสิว ประมาณ 15-20 นาที ก่อนล้างออกเป็นประจำ จะช่วยลดอาการบวมแดง การอักเสบของสิว และทำให้ผิวดูผุดผ่อง กระจ่างใสมากยิ่งขึ้นด้วย

6. ปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง

สำหรับคนที่งานยุ่งจนไม่มีเวลาดูแลตัวเองอย่างจริงจัง การพบแพทย์เพื่อรักษาอย่างตรงจุดก็เป็นวิธีที่ดีที่สุด ซึ่งสมัยนี้ก็มีวิธีรักษาให้สิวหายได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการฉีดยา เลเซอร์ ทรีตเมนต์ หรือกินยาเพื่อควบคุมสมดุลของระดับฮอร์โมน แต่ต้องมั่นใจว่ามีกำลังทรัพย์มากพอนะคะ เพราะค่ารักษาและค่ายานั้นค่อนข้างสูงเหมือนกัน

ใครสามารถเปลี่ยนตัวเองและรักษาจนหายขาดได้แล้ว ยังไงก็อย่ากลับไปมีพฤติกรรมทำลายสุขภาพตัวเองแบบเดิมอีกนะคะ ไม่อย่างนั้นอาการสิวขึ้นคางก็จะกลับมาวนเวียนอยู่ซ้ำๆ และไม่ได้เกิดขึ้นแค่ช่วงประจำเดือนเท่านั้นแน่นอน..


วาไรตี้

เครื่องสำอาง แม่และเด็ก คลินิก สุขภาพ สกินแคร์ แต่งหน้า ทรงผม ทำเล็บ แฟชั่น ความรัก ดูดวง วาไรตี้ ลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย คติสอนใจ ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร ร้านคาเฟ่