7 วิธี เอาตัวรอด เมื่อเจอสถานการณ์ ลิฟต์ค้าง

อ่าน 6,146

มื่อเราจะต้องตกอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น ลิฟต์ค้าง เชื่อได้เลยว่าหลายๆ คน จะต้องตกใจทำอะไรไม่ถูกกันอย่างแน่นอน แต่เพื่อนๆ รู้ไหมถ้าเรายิ่งเป็นแบบนั้นยิ่งทำให้เรารู้สึกว่าตนเองกำลังจะตาย เพราะขาดอากาศหายใจ ดังนั้นเมื่อเราเจอสถานการณ์ฉุกเฉินแบบนี้ ให้เราตั้งสติก่อนเป็นอันดับแรกเลย

7 วิธีเอาตัวรอด เมื่อเจอสถานการณ์ลิฟต์ค้าง

ซึ่งในบทความนี้ แคมปัส-สตาร์ ก็ได้รวบรวม 7 วิธีในการับมือเมื่อเราจะต้องเจอสถาณการณ์ลิฟต์ค้างมาบอกกันด้วย จะมีข้อควรปฏิบัติอย่างไรบ้าง ตามมาดูกันเลย

1. ตั้งสติเป็นอันดับแรก

ในสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะรู้สึกตกใจกลัว จนทำอะไรไม่ถูก แต่ถ้าหากเราต้องเจอสถานการณ์ลิฟต์ค้าง ให้เราตั้งสติให้ดีเป็นอันดับแรกเลย ให้สูดลมหายใจเข้าลึกๆ และค่อยๆ คิดหาทางเอาตัวรอดต่อไป

2. กดปุ่มระฆัง เพื่อขอความช่วยเหลือ

ในลิฟต์ทุกตัวจะมีปุ่มที่เป็นรูประฆังอยู่แล้ว ซึ่งในกรณีที่ไฟฟ้าไม่ทำงานให้เราใช้วิธีการตะโกนออกไปด้านนอกดังๆ เลย หรือจะทำการทุบประตูลิฟต์เพื่อขอความช่วยเหลือ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่เราก็สามารถทำได้

3. ใช้มือถือให้เป็นประโยชน์

หากสัญญาณไฟขัดข้องภายในลิฟต์ก็จะมืดในทันที ดังนั้นถ้าเราไม่มีไฟฉายพกติดตัวเอาไว้ การใช้มือถือให้แสงสว่างก็เป็นอีกหนึ่งทางออกที่ดีเหมือนกัน แต่ที่สำคัญห้ามใช้ไฟแช็กโดยเด็ดขาด เพราะมันอาจจะไปทำลายก๊าซออกซิเจนในลิฟต์ให้หมดเร็วมากขึ้น และมันก็จะทำให้เราขาดอากาศหายใจในที่สุด

4. โทรแจ้งคนให้มาช่วยโดยด่วน!

สำหรับในกรณีฉุกเฉินเราสามารถที่จะโทรแจ้งเจ้าของหอพัก เจ้าของคอนโด หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือได้

ต้องทำอย่างไร? 8 วิธีเอาตัวรอด เมื่อเจอสถานการณ์ลิฟต์ค้าง

5. พยายามกดปุ่มลิฟต์ให้เปิด

สำหรับในกรณีที่ลิฟต์ค้างที่ชั้นใดชั้นหนึ่ง ให้เราลองพยายามกดปุ่มเปิดลิฟต์ชั้นที่ค้างอยู่ แต่ถ้าหากไม่ได้ผลประตูไม่ยอมเปิด (อย่างัดประตูลิฟต์จากด้านในเด็ดขาด เพราะมันอาจจะเกิดอันตรายกับตัวเราเองได้) ดังนั้นให้เราลองพยายามที่จะกดปุ่มตัวเลขชั้นที่ลิฟต์ให้บ่อยที่สุด (กดเกือบทุกชั้นได้ยิ่งดีเลย)

6. กดปุ่ม "หยุดทำงาน"

หากลิฟต์ค้าง เราสามารถที่จะกดปุ่ม "หยุดทำงาน" เพื่อเป็นการป้องกันลิฟต์ไม่ให้ร่วงตกลงไป ไม่งั้นจะเป็นอันตรายต่อตัวเราเองอย่างรุนแรงเลยทีเดียว ถ้าลิฟต์ค้างอยู่ในชั้นที่สูงมากๆ

7. ต้องรับมือกับสถานการณ์ลิฟต์ตกให้ได้

อย่างแรกที่เราควรทำก็คือ หาที่จับให้แน่นเพื่อป้องกันจากการหล่นกระแทกและการบาดเจ็บหากเราเสียสมดุล จากนั้นให้พิงหลังและศีรษะเข้ากับผนังให้เป็นเส้นตรง จะช่วยป้องกันการบาดเจ็บของหลังและกระดูก งอเข่าเพราะจะช่วยลดแรงกระแทกในขณะที่ลิฟต์ตกถึงพื้น และสุดท้ายกดปุ่มให้ลิฟต์จอดชั้นที่ใกล้ที่สุดเมื่อไฟฟ้าสำรองทำงาน เพื่อป้องกันไม่ให้ลิฟต์ลงไป

วาไรตี้

เครื่องสำอาง แม่และเด็ก คลินิก สุขภาพ สกินแคร์ แต่งหน้า ทรงผม ทำเล็บ แฟชั่น ความรัก ดูดวง วาไรตี้ ลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย คติสอนใจ ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร ร้านคาเฟ่