ไขข้อสงสัยอาการผีอำ คืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร?

อ่าน 2,131

อาการผีอำตกลงเป็นผีมาอำจริงๆ หรือเป็นความผิดปกติของร่างกายอย่างหนึ่ง ใครเคยโดนผีอำมาไขข้อสงสัยกันค่ะ

คงมีคนจำนวนไม่น้อยที่เคยถูกผีอำ นอนอยู่ดีๆ ก็เหมือนขยับร่างกายไม่ได้ พูดอะไรก็ไม่ได้ แถมยังเห็นเหมือนใครมานั่งทับอกไปอีก ครั้นพอขยับตัวได้ สติมา ก็เริ่มสงสัยว่าอาการนอนแล้วขยับตัวไม่ได้เกิดจากถูกผีอำจริงๆ หรือที่แท้แล้วร่างกายเราเกิดความผิดปกติบางอย่างอยู่ เอาล่ะ...จะผีอำจริงๆ หรืออำหลอกๆ เรามาหาคำตอบกัน !

ผีอำ คืออะไรกันแน่

ผีอำ (Sleep Paralysis) เป็นคำที่ได้ยินกันมาตั้งแต่เด็กๆ โดยเป็นคำที่อธิบายถึงสภาวะขยับร่างกายไม่ได้ในขณะที่อยู่ในสภาวะครึ่งหลับครึ่งตื่น เป็นความรู้สึกอึดอัดแบบที่หาทางออกไม่ได้ บางคนจะรู้สึกแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก หนักอึ้งไปทั้งตัว พยายามจะอ้าปากพูด เสียงก็ไม่ออกมา บ้างก็เห็นใครมานั่งทับอก หรือยืนคร่อมตัวอยู่ เป็นต้น

ทว่าในทางวิทยาศาสตร์หรือทางการแพทย์ ผีอำจัดเป็นอาการผิดปกติอย่างหนึ่งของการนอนหลับ โดยอาการผีอำมีส่วนเกี่ยวข้องกับการนอนฝันร้าย มักจะเกิดในช่วงครึ่งหลับครึ่งตื่น ในขณะที่กำลังเคลิ้มหลับหรือใกล้ตื่นนอน และผีอำเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัยเลยล่ะค่ะ

ผีอำเกิดจากอะไร

อาการผีอำเป็นอาการที่ร่างกายกับจิตใต้สำนึกหลับหรือตื่นขึ้นมาไม่พร้อมกัน โดย รศ. นพ.ณัฐพงษ์ เจียมจริยธรรม หัวหน้าศูนย์นิทราเวช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย อธิบายว่า ในการนอนหลับของเราจะมีการฝันเกิดขึ้นประมาณคืนละ 5 รอบ รอบแรกจะเกิดขึ้นหลังหลับไปแล้ว ซึ่งในช่วงนี้ร่างกายจะถูกสั่งให้เป็นอัมพาตเพื่อที่จะได้โฟกัสไปที่ความฝันอย่างจริงจัง บางครั้งเราจึงรู้สึกว่าความฝันของเราเหมือนจริงมากๆ ทว่าในบางคนยังไม่ทันจะหลับลึกแต่ยังอยู่ในช่วงเคลิ้มหลับก็ฝันแล้ว ร่างกายเลยสั่งให้เป็นอัมพาตเฉียบพลันทั้งๆ ที่มีสติอยู่บ้าง (ครึ่งหลับครึ่งตื่น) จึงรู้สึกเหมือนถูกผีอำนั่นเอง

อย่างไรก็ตามสภาวะการหลับแบบนี้ทางการแพทย์เรียกว่า ภาวะหลับแบบตากระตุก (REM sleep) ซึ่งจะเป็นช่วงที่เราจะฝัน และร่างกายจะตกอยู่ในสภาวะที่กล้ามเนื้อต่างๆ คลายตัวหมด ส่งผลให้การขยับตัวเป็นเรื่องยาก และจะขยับตัวได้ก็ต่อเมื่อต้องตื่นอย่างเต็มที่ โดยอาจจะโดนเขย่าตัวให้ตื่น หรือรอให้ร่างกายกลับสู่สภาวะตื่นอย่างเต็มตัว ทั้งนี้อาการขยับตัวไม่ได้จะเป็นอยู่ประมาณ 2 วินาที - 10 นาที จากนั้นร่างกายจะค่อยๆ ปรับตัวจนตื่นอย่างเต็มตาได้ในที่สุด

นอกจากนี้ข้อมูลจากคลินิกสุขภาพจิตนายแพทย์เจษฎา ยังเผยถึงสาเหตุของอาการผีอำว่ามีปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย ดังนี้

- การอดนอนหรือนอนไม่พอ

- การเข้านอนผิดเวลา โดยเฉพาะในช่วงโพล้เพล้ ซึ่งเป็นช่วงกึ่งสว่างกึ่งมืด ทำให้ร่างกายหลับได้ไม่สนิทดี ส่งผลให้เกิดฝันร้ายหรืออาการผีอำได้มาก

- โรคลมหลับ ซึ่งเป็นโรคที่มีช่วงการนอนฝันผิดปกติ (อ่านเพิ่มเติม : ง่วงนอนทั้งวัน หลับได้ทุกที่ ระวังให้ดีอาจเป็นโรคลมหลับ)

- โรคร่วมต่างๆ เช่น โรคเครียด ไมเกรน โรควิตกกังวล เป็นต้น

ผีอำ อาการเป็นอย่างไร

อย่างที่บอกว่าอาการผีอำจะมีลักษณะเหมือนนอนหลับอยู่แล้วรู้สึกหนักๆ ที่ตัว เคลื่อนไหวร่างกายไม่ได้ แม้จะลืมตาตื่นหรือพยายามจะเปล่งเสียงเรียกให้ใครช่วยก็พูดไม่ออก พยายามตะโกนออกมาเสียงก็ไม่ออก บางครั้งก็หลอนว่าตัวเองถูกตรึงไว้บนเตียง จับแขน ฉุดขา ตัวหมุนเคว้ง หรือลอยได้ และอาการจะหายไปก็ต่อเมื่อใครสักคนมาเขย่าตัวหรือปลุกแรงๆ ให้ตื่น แต่หากไม่มีใครมาปลุก อาการนี้ก็จะหายได้เองภายในไม่เกิน 10 นาที และเป็นอาการที่ไม่มีอันตรายใดๆ

ทั้งนี้คนที่มีอาการผีอำส่วนใหญ่จะเกิดอาการขณะนอนหงายบนเตียง หรือนอนอยู่ในท่าที่ไม่สบายตัวสักเท่าไรนะคะ

ผีอำ รักษายังไง

อย่างที่บอกไปว่า อาการผีอำจะหายไปได้เองภายใน 10 นาที ดังนั้นแค่เรานอนเฉยๆ ไม่นานก็จะหายไป แต่หากใครรู้สึกอยากออกจากผีอำโดยเร็ว ให้ลองพยายามขยับกล้ามเนื้อตา กล้ามเนื้อนิ้ว อะไรที่เล็กๆ ดูก่อน เพราะหากขยับได้ จะทำให้เราหลุดออกได้ทันที

และเนื่องจากอาการผีอำไม่ได้ส่งผลอันตรายต่อร่างกายโดยตรง ดังนั้นการรักษาอาการผีอำจึงยังไม่มีวิธีรักษาที่แน่นอน เพียงแต่มีแนวทางที่ควรปฏิบัติ ดังนี้

1. ทำความเข้าใจเกี่ยวกับวงจรและระยะของการนอน

2. ฝึกทักษะการหายใจเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด

3. ตั้งสติให้ดี

4. ในกรณีที่เป็นโรคลมหลับ แพทย์อาจจะให้ยาแก้ง่วง หรือยาลดการฝัน เป็นต้น

สำหรับคนที่เกิดอาการผีอำบ่อยๆ แนะนำให้พบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการผีอำบ่อยๆ ซึ่งจะเป็นวิธีที่ช่วยให้ได้รับการรักษาอย่างตรงจุดที่สุด

ผีอำ ป้องกันได้ไหม

ด้วยความที่อาการผีอำเกิดได้จากพฤติกรรมบางอย่างของเราด้วย ดังนั้นหากไม่อยากมีอาการผีอำอีก เรามีวิธีป้องกันผีอำมาบอกต่อ

* ไม่อยากถูกผีอำ "ต้องทำ" อย่างนี้

- ปรับไฟในห้องนอนให้สลัวๆ สร้างบรรยากาศก่อนนอนอย่างน้อย 15 นาที

- ผ่อนคลายความเครียด ทำจิตให้ว่างก่อนเข้านอนสัก 2-3 ชั่วโมง โดยอาจสวดมนต์ ไหว้พระ หรือทำสมาธิก่อนนอนก็ได้

- ออกกำลังกายเป็นประจำ โดยออกกำลังกายเบาๆ ไปจนถึงปานกลาง ไม่เกิน 1-2 ชั่วโมงขึ้นไป (แต่ไม่ควรออกกำลังกายก่อนนอน)

- ยืดเส้นยืดสาย หรือโยคะเบาๆ ก่อนนอน 15-30 นาที

- ควรเข้านอนเวลาเดิม และตื่นนอนเวลาเดิมทุกวัน

- อาบน้ำอุ่น หรือแช่เท้าในน้ำอุ่นก่อนเข้านอน

- เปิดเพลงบรรเลงเบาๆ หรือเสียงธรรมชาติเพื่อกล่อมให้นอนหลับง่ายขึ้น

- ดื่มนมอุ่นๆ สักแก้วก่อนนอน เพื่อให้นอนหลับง่ายขึ้น

* ไม่อยากถูกผีอำ "อย่าทำ" อย่างนี้

- ดูโทรทัศน์หรือเล่นมือถือก่อนนอน โดยเฉพาะดูเรื่องเครียดๆ เรื่องลี้ลับ เรื่องผี เป็นต้น

- ดื่มแอลกอฮอล์หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนก่อนนอน เพราะทำให้หลับตื้น และตื่นง่ายขึ้น

- สูบบุหรี่ก่อนนอน เพราะทำให้หัวใจเต้นเร็วและแรงจนนอนหลับยากขึ้น

- นอนในที่ที่ไม่ใช่ห้องนอน ไม่ใช่ที่ที่เหมาะแก่การนอน เช่น นอนบนโซฟา หรือเก้าอี้เอน เป็นต้น

- นอนหลับทั้งที่ร่างกายไม่อยู่ในสภาวะที่พร้อมหลับ เช่น เพลียเกินไป หลับไปทั้งที่ยังไม่ได้อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า

- เข้านอนทั้งๆ ที่หิวอยู่ หรือในขณะที่อิ่มมากๆ

- เล่นมือถือหรือคอมพิวเตอร์ก่อนเข้านอน 1-2 ชั่วโมง

- นอนกอดอก เพราะอาจทำให้รู้สึกคล้ายผีอำได้จากแรงกดของมือและแขน

- ออกกำลังกายอย่างหนักหรืออย่างหักโหมก่อนเวลานอน 2-3 ชั่วโมง

- นอนหลับในช่วงเวลาโพล้เพล้

อย่างไรก็ตาม หากมีอาการผล็อยหลับบ่อยๆ หรือมีอาการผีอำบ่อยครั้ง ควรพบแพทย์เพื่อปรึกษาและหาทางออกที่ถูกต้องจะดีที่สุดนะคะ


วาไรตี้

เครื่องสำอาง แม่และเด็ก คลินิก สุขภาพ สกินแคร์ แต่งหน้า ทรงผม ทำเล็บ แฟชั่น ความรัก ดูดวง วาไรตี้ ลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย คติสอนใจ ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร ร้านคาเฟ่