ทำอย่างไรถึงจะเก็บเงินอยู่? เคล็ดลับง่ายๆ แก้ปัญหามีเงินติดตัวแล้วอยากใช้

อ่าน 2,007

10 ทริกปรับพฤติกรรมการใช้เงินแบบง่ายๆ สำหรับใครที่มีปัญหาพกเงินติดตัวแล้วอยากใช้ตลอด จนไม่มีเงินเก็บสักที

เป็นกันไหมเวลามีเงินติดตัวแล้วอยากใช้ตลอด กล้าควักซื้อของราคาแพงๆ แบบง่ายดาย เรื่องนี้มีงานวิจัยด้านจิตวิทยาอธิบายไว้ว่า เพราะการใช้เงินช่วยเพิ่มความสุขได้ จึงไม่แปลกถ้าเราจะอยากซื้อนู่นซื้อนี่เมื่อพกเงินจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม แม้การใช้เงินจะทำให้มีความสุขในช่วงเวลานั้นก็จริง แต่หากใช้มากจนเกินตัว อาจนำมาสู่ความทุกข์ภายหลังได้เช่นกัน วันนี้เราจึงมีทริกง่ายๆ เอาไว้แก้ปัญหามีเงินติดตัวแล้วอยากใช้ ต้องทำอย่างไรถึงจะเก็บเงินอยู่

1. สร้างเป้าหมายให้ตัวเอง

คนส่วนมากที่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยจนไม่มีเงินเก็บ เหตุผลหนึ่งก็เพราะไม่รู้ว่าจะเก็บเงินไปทำไม เพราะฉะนั้น ลองหาเป้าหมายที่ชัดเจนของตัวเองดู ว่าเก็บเงินเพื่ออะไร เป็นจำนวนเท่าไหร่ ภายในระยะเวลาแค่ไหน เช่น ภายใน 1 ปี จะเก็บเงินเรียนต่อ หรือเก็บเงินซื้อบ้านในอีก 5 ปี เป็นต้น ทำแบบนี้จะทำให้เห็นภาพชัดขึ้นและมีแรงกระตุ้นในการเก็บเงิน อาจเริ่มด้วยเป้าหมายเล็กๆ หรือเงินจำนวนไม่มากก่อนก็ได้ เมื่อทำสำเร็จค่อยขยับเป้าหมายให้ใหญ่ขึ้นต่อไป

2. เก็บก่อนใช้

ถ้ารู้ตัวว่าเป็นคนที่ควบคุมการใช้เงินไม่ค่อยได้ เมื่อเงินเดือนออกก็อย่าเพิ่งกดเงินมาเข้ากระเป๋าจนหมด เดี๋ยวจะเผลอจ่ายกระจาย แต่ควรกันเงินส่วนหนึ่งเพื่อเป็นเงินออมทันที สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการเปิดบัญชีสำหรับออมเงินแยกมาต่างหาก แล้วสมัครบริการโอนเงินอัตโนมัติ หักจากบัญชีเงินเดือน ตามจำนวนที่เราอยากจะออมเลย เช่น เดือนละ 2,000 บาท หรือ 10% ของรายได้

โดยควรเลือกบัญชีที่ให้ดอกเบี้ยสูงหน่อย เช่น บัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง หรือฝากประจำ และสำคัญที่สุด ต้องเป็นบัญชีที่ไม่มีบัตรเดบิต ไม่สมัคร Internet Banking ได้ยิ่งดี จะได้ไม่ต้องเผลอกดเงินออกมาใช้ หรือมือลั่นสั่งสินค้าช้อปปิ้งออนไลน์จนหมดเสียก่อน เท่านี้ก็จะช่วยให้การออมเงินมีวินัยอย่างสม่ำเสมอแน่นอน

3. เปิดบัญชีร่วม

การเปิดบัญชีร่วมกับคนในครอบครัวที่ไว้ใจได้ หรือสามี-ภรรยา ก็เป็นอีกแนวทางที่ช่วยได้ดีทีเดียว เพราะเวลาจะถอนเงินแต่ละครั้ง มักมีขั้นตอนที่ยุ่งยากพอสมควร เพราะต้องพากันไปธนาคารทั้งคู่ แล้วเซ็นชื่อยินยอมทั้ง 2 ฝ่าย นอกจากนี้ เวลาจะถอนเงินไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือย จะได้มีคนคอยช่วยเตือนเรื่องการใช้เงินอีกด้วย

4. เหลือเงินไว้น้อยๆ ในบัญชีที่ใช้ทำธุรกรรมออนไลน์

สมัยนี้คงปฏิเสธการใช้ Internet Banking ไม่ได้แล้ว เพราะเป็นช่องทางที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย แต่นี่แหละที่ทำให้การใช้จ่ายเงินทำได้ง่ายเหลือเกิน เผลอไม่ทันไรก็กดซื้อของจนเงินเกลี้ยงบัญชีแล้ว  ดังนั้น แนะนำว่าสำหรับบัญชีเงินฝากที่มี Internet Banking ลองให้เงินเหลือติดบัญชีนั้นน้อยๆ เข้าไว้ หรือกำหนดไปเลยว่าเดือนละไม่เกินเท่าไหร่ เพื่อจะได้จำกัดการใช้เงิน ไม่ให้หมดไปกับของฟุ่มเฟือยแบบไม่รู้ตัว

5. อย่าพกเงินสดเยอะ

คนที่เก็บเงินไม่อยู่ส่วนมากแล้วมักจะควบคุมการใช้เงินในแต่ละวันของตัวเองไม่ได้ เห็นอะไรก็อยากซื้อ อยากได้ไปหมด เคยสังเกตไหมว่า เวลาเรามีแบงก์พันติดกระเป๋าทีไรมักจะหมดเร็วทุกที พอมีเงินเยอะแล้วทำให้เรากล้าซื้อ เพราะฉะนั้น วิธีแก้ง่ายๆ คือ อย่าพกเงินสดติดกระเป๋าเยอะ แต่เปลี่ยนมาใช้วิธีกำหนดไปเลยว่าจะใช้เงินไม่เกินวันละกี่บาท ก็พกเท่านั้นพอ ถ้ามีเหตุฉุกเฉินจำเป็นจริงๆ ค่อยไปกดเงินเอาทีหลัง เท่านี้ปัญหามือเติบใช้เงินเกินตัว ก็จะค่อยๆ หมดไป

6. เก็บเงินในรูปแบบอื่นที่ไม่ใช่เงินสด

หลายคนเห็นเงินสดเป็นไม่ได้ เป็นต้องหยิบออกมาใช้ทุกที เอาเป็นว่าลองเปลี่ยนไปเก็บเงินไว้ในรูปแบบอื่นที่ไม่สามารถถอนออกมาใช้ได้ง่ายๆ เช่น เปิดบัญชีเงินฝากประจำ หรือ ซื้อสลากออมทรัพย์ ก็นับเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย

7. นำเงินไปลงทุน

ลองคิดดูเล่นๆ ถ้าเปลี่ยนเงินที่เราใช้จ่ายฟุ่มเฟือยแต่ละเดือนมาลงทุนแทน เมื่อเวลาผ่านไปเงินจำนวนนั้นจะเติบโตขนาดไหน ยิ่งปัจจุบันการลงทุนก็มีหลากหลายรูปแบบให้เลือกตามความเสี่ยงที่รับได้ เช่น กองทุนรวม หุ้น ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น ซึ่งแม้ว่าการลงทุนจะมีความเสี่ยง มีโอกาสขาดทุน แต่อย่างน้อยก็ยังดีกว่าปล่อยให้หมดไปกับของฟุ่มเฟือยโดยไม่ก่อประโยชน์อะไรเลย

8. เลี่ยงเข้าเว็บไซต์ช้อปปิ้งออนไลน์

ถ้าอยากเก็บเงินให้ได้จริงๆ เลี่ยงได้เลี่ยงไปเลยกับเว็บไซต์ช้อปปิ้งออนไลน์ เพจขายของ เพจบอกโปรโมชั่น รวมโปรโมชั่นต่างๆ จะได้ไม่ต้องเห็นสินค้าล่อตาล่อใจจนเกิดกิเลส ทำเงินหายเกลี้ยงในพริบตาเหมือนที่ผ่านมา

9. เปลี่ยนมาซื้อของที่มีมูลค่าเติบโตในอนาคต

ถ้าคิดว่าตัวเองยังติดนิสัยชอบใช้เงิน อยากซื้อของตลอดเวลาอยู่ เอาเป็นว่าแทนที่จะไปซื้อของฟุ่มเฟือย ลองเปลี่ยนมาลงทุนกับสินค้าแบรนด์เนม หรือของสะสมที่มีมูลค่าเติบโตต่อได้ในอนาคตดีกว่าไหม เช่น กระเป๋า รองเท้า นาฬิกาแบรนด์ดัง หรือของสะสมหายาก เป็นต้น

เพราะเมื่อเวลาผ่านไป สินค้าเหล่านี้มักมีมูลค่าที่เพิ่มขึ้น สามารถนำไปขายต่อได้ นับเป็นการลงทุนอีกรูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจ อย่างไรก็ดี คุณก็ต้องมีความเข้าใจสินค้านั้นๆ และตลาดให้ดีด้วย เพราะอาจเสี่ยงขาดทุนได้ง่ายๆ เช่นกัน

10. หาคนช่วยเก็บ

เก็บเงินเองยากนัก ลองมาทุกวิธีแล้วก็ยังไม่สำเร็จสักที ก็หาคนใกล้ตัวมาช่วยดูแลให้หมดเรื่องไปเลย โดยควรเป็นคนในครอบครัว เช่น พ่อ แม่ พี่น้องที่ไว้ใจได้ หรือคู่สามี-ภรรยา แล้วนำเงินไปฝากไว้กับคนนั้นให้เขาช่วยดูแล เพราะถ้าเก็บไว้กับตัวเองรับรองไม่มีเหลือแน่ เท่านี้เราก็จะค่อยๆ สามารถควบคุมการใช้เงิน ให้เริ่มมีเงินออมได้แล้ว

ใครที่มีปัญหาเก็บเงินไม่อยู่ ใช้จ่ายเกินตัว ลองนำวิธีเหล่านี้ไปปรับพฤติกรรมการใช้เงินกันดู เลือกวิธีที่เหมาะกับตัวเอง แล้วเริ่มเลยตั้งแต่วันนี้


วาไรตี้

เครื่องสำอาง แม่และเด็ก คลินิก สุขภาพ สกินแคร์ แต่งหน้า ทรงผม ทำเล็บ แฟชั่น ความรัก ดูดวง วาไรตี้ ลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย คติสอนใจ ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร ร้านคาเฟ่