8 น้ำมันปลา ยี่ห้อไหนดี 2024 ช่วยลดไขมัน บำรุงสมอง บำรุงผิวพรรณต้องทาน

อ่าน 4,051

แนะนำ น้ำมันปลา 2023 เพราะร่างกายของเราอาจไม่ได้แข็งแรงตลอดเวลา เพราะฉะนั้นการทานอาหารเสริมเลยเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับทุกคนที่อยากมีร่างกายที่แข็งแรง วันนี้ GangBeauty เลยมี 8 ยี่ห้อน้ำมันปลาที่กินแล้วได้ผลมาฝากคุณสาวๆกันค่ะ เชื่อว่าสาวๆหลายๆคนอยากหามาทานแต่ไม่แน่ใจว่าควรจะทานยี่ห้อไหนดี หรือต้องทานตอนไหน เพราะงั้นตามไปดูกันเลยจ้า

น้ำมันปลาหรือ Fish oil คือ น้ำมันที่สกัดมาจากส่วนของเนื้อปลา หนัง หัว และหางของปลาทะเลน้ำลึก ซึ่งในน้ำมันปลานี้จะมีกรดไขมันอยู่หลายชนิด แต่ชนิดที่สำคัญและมีการนำมาใช้ในทางการแพทย์ คือ กรดไขมันกลุ่มโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 ซึ่งประกอบด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน ซึ่งกรดไขมันที่สำคัญที่สุดคือกรดไขมันในกลุ่มโอเมก้า 3 ครับ เพราะมีกรดที่สำคัญอยู่ 2 ชนิด คือ EPA (Eicosapentaenoic Acid) และ DHA (Docosahexaenoic Acid) ซึ่งเป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย แต่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นมาเองได้ และจำเป็นต้องได้รับจากอาหารเท่านั้น

ประโยชน์ของน้ำมันปลา

- EPA ช่วยลดระดับไขมันในเลือดชนิดไตรกลีเซอร์ไรด์

- EPA ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคทางระบบหลอดเลือดและหัวใจ

- EPA ช่วยลดความดันโลหิตสูงให้อยู่ในระดับปกติได้

- EPA มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบต่างๆ ในร่างกายได้

- DHA เป็นส่วนประกอบในเซลล์สมอง ประสาท และจอประสาทตา

- DHA อาจช่วยป้องกันภาวะซึมเศร้าและโรคที่เกี่ยวกับความจำหรืออัลไซเมอร์ได้

หลายคนอาจสงสัย น้ำมันปลา ต่างจาก น้ำมันตับปลา (Cod Liver Oil) ยังไง?

น้ำมันตับปลา เป็นน้ำมันที่ได้จากตับปลาทะเล เป็นแหล่งที่ให้วิตามินเอ ช่วยบำรุงผิวพรรณ และวิตามินดี ที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่กระดูก หากรับประทานมากเกินขนาด อาจเกิดพิษจากการสะสมของวิตามินเอและดีซึ่งเป็นวิตามินที่ละลายในร่างกายส่วนที่เป็นไขมัน

น้ำมันปลา

1. สกัดได้จากเนื้อ หัว หางและของปลาทะเล

2. เป็นแหล่งที่ให้กรดไขมันจำเป็น โอเมก้า 3

3. ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไขมันในเลือดสูง

น้ำมันตับปลา

1. สกัดจากตับปลาทะเล

2. เป็นแหล่งที่ให้วิตามินเอและดี

3. บำรุงร่างกายทั่วไป

วิธีกินน้ำมันปลา

  • ในข้างขวดของน้ำมันปลาแต่ละยี่ห้อจะระบุปริมาณของ EPA และ DHA ไว้แล้ว ซึ่งเราก็จะรู้ว่าวันหนึ่งเราต้องกินกี่เม็ด โดยให้กินเฉลี่ยๆ หลังอาหารทั้ง 3 มื้อ มื้อละเท่าๆ กันได้เลย
  • ควรกินภายใต้การมีโภชนาการที่ดี กินอาหารอื่นๆ ให้ครบหมู่ ไม่ใช่กินแต่น้ำมันปลาอย่างเดียว
  • แม้ในปัจจุบันจะมีงานวิจัยที่ระบุว่า การรับประทานน้ำมันปลาแทบจะไม่มีผลต่อการเกิดภาวะเลือดหยุดยาก (ไม่เสี่ยงเลือดออกง่าย) แต่ก็มีคำแนะนำว่าควรหยุดรับประทานน้ำมันปลาก่อนการผ่าตัด ทำฟัน อย่างน้อย 15 วัน
  • สำหรับหญิงตั้งครรภ์ ปัจจุบันก็มีหลายงานวิจัยที่ระบุว่า การรับประทานน้ำมันปลาไม่ส่งผลเสียต่อการตั้งครรภ์แต่อย่างใด พร้อมกับมีคำแนะนำว่า หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ 25-35 สัปดาห์ และหญิงให้นมบุตร ควรได้รับ DHA วันละ 1-2 แคปซูล เพื่อช่วยเสริมพัฒนาการทางสมองและสายตาของทารกและเด็ก
  • สำหรับผู้ที่ทานยากันเลือดแข็งตัวในโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมองหรืออื่นๆ รวมถึงผู้ป่วยตับและไต ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ถ้าจะรับประทานน้ำมันปลา

น้ำมันปลา ยี่ห้อไหนดี 2023

รู้ข้อมูลของเจ้าน้ำมันปลากันไปแล้ว คราวนี้เราไปดูกันดีกว่าค่ะว่าจะซื้อน้ำมันปลามาทาน ควรซื้อยี่ห้อไหนดี ตาม GangBeauty ไปดูกันเลยจ้า

1. Mega We Care Fish Oil

เริ่มต้นกันด้วย Mega We Care Fish Oil อาจคุ้นตากันมาบ้างเพราะค่อนข้างเป็นที่นิยมกัน สำหรับสูตรนี้คัดสรรสารสกัดน้ำมันปลาจากปลาทะเลลึกในแหล่งน้ำธรรมชาติของประเทศไอซ์แลนด์จนได้เป็นอาหารเสริมที่อุดมด้วยโอเมก้า 3 และDHA คุณภาพสูง เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดระดับไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ สูตรนี้ยังผ่านการวิเคราะห์และรับรองว่าไร้สารปนเปื้อน ได้แก่ โลหะหนัก, การแต่งกลิ่นและสีสังเคราะห์, สารกันบูด จึงเหมาะกับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ รับประทานต่อเนื่องเป็นเวลานานได้โดยไม่ทิ้งสารสะสมในร่างกาย ราคา 250 บาท

2. Giffarine fish oil 1000

ต่อกันที่ Mega We Care Fish Oil เป็นอาหารเสริมน้ำมันปลาคุณภาพระดับพรีเมี่ยม มีส่วนผสมจาก Omega-3 EPA และ DHA ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น ไม่ข้นหนืด ป้องกันไขข้อเสื่อมอักเสบที่เกิดจากรูมาตอยด์ บำรุงปลายประสาทและเซลล์สมอง มีส่วนช่วยในการป้องกันโรคหัวใจ โรคเบาหวานและความดันสูง สามารถทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่

3. Vistra Salmon Fish Oil Plus Vitamin E

สำหรับ Vistra เป็นอีกหนึ่งแบรนด์อาหารเสริมที่เราคุ้นชินกันดี สำหรับสูตรนี้เป็นน้ำมันปลาที่อุดมด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ในปริมาณมากมีครบทั้ง EPA และ DHA รวมถึงมีการผสานเอาคุณสมบัติของวิตามินอีมาด้วย ซึ่งช่วยในการบำรุงผิวพรรณ ผมและเล็บ และยังมีส่วนช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนั้นยังช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดตามข้อ การลดระดับไตรกรีเซอร์ไรด์ในเลือดและระดับคอเรสเตอรอล หรือการบำรุงเซลล์สมองและสายตา ราคา 360 บาท

4. Blackmores Fish oil 1000

Blackmores Fish oil 1000 เป็นอาหารเสริมจากออสเตรเลีย สำหรับน้ำมันปลาสูตรนี้เป็นสารสกัดที่ได้จากปลาทะเลลึกที่ให้กรดไขมันโอเมก้า 3 อย่างทรงประสิทธิภาพทั้ง DHA และ EPA แถมยังมีวิตามินอี ช่วยเรื่องบำรุงสมอง, เส้นเลือดและร่างกายได้ดียิ่งขึ้น มีส่วนสำคัญในการช่วยการไหลเวียนของเลือด ลดไตรกรีเซอร์ไรด์และลดระดับคอเรสเตอรอล และที่สำคัญผ่านการตรวจสอบมาแล้วว่าปราศจากสารปรอทและตะกั่ว ราคา 873 บาท

5. Bewel Salmon Fish Oil Plus Vitamin E

เป็นอาหารเสริมจากออสเตรเลียอีกตัวสำหรับ Bewel Salmon Fish Oil Plus Vitamin E ซึ่งประกอบไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ทั้ง DHA และ EPA ที่สกัดได้จากปลาทะเลลึกในประเทศไอซ์แลนด์ ปราศจากโลหะหนักและสารเจือปน ช่วยลดไขมันชนิดไตรกรีเซอร์ไรด์ในเลือดซึ่งหากสะสมมากเกินไปจะเป็นอันตราย ตลอดจนช่วยบรรเทาอาการปวดข้ออักเสบ และผสมผสานวิตามินอีมารวมไว้ในแต่ละแคปซูลเพื่อบำรุงผิวพรรณ ราคา 270 บาท

6. Now Molecularly Distilled Omega-3

สำหรับ Now Molecularly Distilled Omega-3 เป็นอาหารเสริมจากสหรัฐอเมริกา ประกอบไปด้วยสารสกัดคุณภาพจากน้ำมันปลา Anchovies ที่เต็มเปี่ยมด้วยโอเมก้า 3 ทั้ง EPA และ DHA ช่วย บำรุงสุขภาพของหัวใจอย่างดีเยี่ยม ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวาย และดูแลหลอดเลือด ผสมผสานด้วยวิตามินอีจากน้ำมันดอกทานตะวัน ช่วยปกป้องเซลล์จากสารอนุมูลอิสระ และชะลอความเสื่อมของเซลล์ร่างกาย และแน่นอนว่าได้รับการรับรองมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของอเมริกามาเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าปราศจากสารตะกั่ว สารปรอท หรือสารจากโลหะหนักต่างๆ ทานได้อย่างปลอดภัยแน่นอนค่ะ ราคา 285 บาท

7. NUTRILITE Salmon Omega Complex Fish Oil

มาต่อกันที่อาหารเสริมน้ำมันปลายี่ห้อ NUTRILITE สกัดมาจากปลาแซลมอนที่เป็นปลาทะเล โดยไม่เจือสีและแต่งกลิ่น ในน้ำมันปลาจะให้กรดไขมันกลุ่มโอเมก้า-3 อันได้แก่  EPA และ DHA ช่วยบำรุงเซลล์ประสาทและสมอง บำรุงสายตา แถมยังมีวิตามินอีที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวพรรณสดใส ดูอ่อนกว่าวัยอีกด้วย ราคา 720 บาท

8. Biogrow FISH OIL

สำหรับตัวสุดท้ายกับ Biogrow FISH OIL น้ำมันปลานำเข้าจากประเทศนิวซีแลนด์ มีสารสกัดที่ได้จากปลาทะเลลึกที่มอบคุณค่าของกรดไขมันโอเมก้า 3 ทั้ง DHA และ EPA ช่วยเรื่องการไหลเวียนโลหิต บำรุงสมอง และช่วยลดไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ในเส้นเลือด และยังช่วยบำรุงสายตา ลดอาการปวดและเจ็บตามไขข้อกระดูก นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของวิตามินอีที่มาเสริมการบำรุงผิวพรรณ ผม เล็บให้มีสุขภาพดีอีกด้วย ราคา 390 บาท

เป็นยังไงกันบ้างคะกับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมน้ำมันปลาที่เราแนะนำ ถูกใจตัวไหนอย่าลืมซื้อมาทานกันนะคะ แต่อย่าลืมทานในปริมาณที่พอดีนะคะ ไม่งั้นนอกจากจะไม่ได้ประโยชน์แล้ว ยังจะทำให้สุขภาพไม่ดีด้วยนะคะ


สุขภาพa

เครื่องสำอาง แม่และเด็ก คลินิก สุขภาพ สกินแคร์ แต่งหน้า ทรงผม ทำเล็บ แฟชั่น ความรัก ดูดวง วาไรตี้ ลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย คติสอนใจ ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร ร้านคาเฟ่